เอแบคโพลล์ชี้ ปชช.อยากให้พรรคการเมืองแก้ปัญหา ศก.แต่ไม่มั่นใจทำได้จริง

ข่าวการเมือง Friday November 2, 2007 16:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อนโยบายพรรคการเมืองในการเลือกตั้งวันที่ 23 ธ.ค.50 พบว่านโยบายที่ประชาชนเห็นว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนมากที่สุด คือ นโยบายด้านเศรษฐกิจ ปากท้อง การทำมาหากิน รองลงมาคือนโยบายด้านสวัสดิภาพสังคม ความมั่นคง ความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน และนโยบายด้านสวัสดิการ การอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน
โดยนโยบายด้านเศรษฐกิจที่ประชาชนต้องการให้พรรคการเมืองผลักดันมากที่สุด คือ การแก้ปัญหาและลดภาระหนี้สิน และการสงเคราะห์ผู้ยากไร้ ส่วนนโยบายด้านสวัสดิภาพสังคมที่ประชาชนต้องการให้พรรคการเมืองผลักดันมากที่สุด คือ ปราบปรามแหล่งมั่วสุมของวัยรุ่น และแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะที่นโยบายด้านสวัสดิการนั้นประชาชนต้องการให้พรรคการเมืองผลักดันเรื่องการให้หลักประกันทางการศึกษา และกองทุนสวัสดิการเพื่อการชราภาพ
จากการสำรวจยังพบว่านโยบายหาเสียงเลือกตั้งของแต่ละพรรคการเมืองนั้นมีผลต่อการตัดสินใจของประชาชนเพียงระดับปาน
กลางเท่านั้น
ทั้งนี้เมื่อถามถึงความมั่นใจในการนำนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งไปปฏิบัติจริงนั้น พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ 47.9% ไม่มั่นใจว่าพรรคการเมืองจะนำนโยบายที่ใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งไปปฏิบัติจริง เพราะเห็นว่าปัญหาต่างๆ ถูกหมักหมมมานาน ไม่สามารถแก้ไขได้ในเวลาอันจำกัด รวมทั้งมองว่านักการเมืองไม่มีความสามารถ ขาดคุณธรรม ชอบทะเลาะกันเอง
ในขณะที่มีประชาชนเพียง 11% เท่านั้นที่มั่นใจว่าพรรคการเมืองจะนำนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งไปปฏิบัติจริงนั้น เนื่องจากเห็นว่าพรรคการเมืองได้ให้คำมั่นสัญญากับประชาชนไว้แล้ว และเชื่อว่ารัฐบาลใหม่จะต้องทำได้ดีกว่ารัฐบาลเดิม
การสำรวจครั้งนี้ยังพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ 53.6% เชื่อว่าความอยู่ดีมีสุขของสังคมไทยจะอยู่เท่าเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงหลังจากการเลือกตั้งในเดือน ธ.ค.50 เพราะเชื่อว่าจะได้รัฐบาลและนักการเมืองที่ไม่แตกต่างไปจากเดิม โดยประชาชน 29.1% เชื่อว่าสังคมไทยจะอยู่ดีมีสุขเพิ่มขึ้น เพราะมั่นใจในรัฐบาลใหม่ว่าไม่ใช่รัฐบาลเฉพาะกิจ และได้นักการเมืองที่เป็นตัวแทนของประชาชน ส่วนอีก 17.3% เชื่อว่าสังคมอยู่ดีมีสุขจะลดลง เพราะมีความขัดแย้งขัดผลประโยชน์ระหว่างฝ่ายต่างๆ และปัญหาทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงดีขึ้น
เอแบคโพลล์ จัดทำผลการสำรวจความคิดเห็นดังกล่าวจากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดหัวเมืองใหญ่ จำนวน 2,929 คน ในช่วงวันที่ 15-30 ต.ค.ที่ผ่านมา

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ