พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เปิดเผยถึงการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ในวันนี้ ประกอบด้วยกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาร่วมงานรำลึก 45 ปี 6 ตุลาคม 2519 ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ตั้งแต่เวลา 07.00- 19.00 น. กลุ่มพลเมืองโต้กลับ บริเวณหน้าศาลฎีกาเวลา เวลา 17.00 น. และกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเยาวรุ่นทะลุแก๊ส บริเวณแยกดินแดง เวลา 17.00 น. โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้แบ่งกำลังพลดูแลความปลอดภัยของประชาชนไว้อย่างชัดเจน
การจัดกิจกรรมครบรอบ 45 ปี 6 ตุลาคม 2519 นั้น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแผนรับมือ ซึ่งจากการข่าวยังไม่พบว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรง ขณะที่ผู้ชุมนุมไม่มีการแจ้งว่าจะเคลื่อนไปที่อื่น จึงยังไม่น่าห่วง โดยเจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดตรวจโดยรอบพื้นที่การชุมนุม เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการนำอาวุธเข้าพื้นที่ พร้อมเตือนผู้ปราศรัยให้ใช้ถ้อยคำอย่างระมัดระวัง เกรงจะทำผิดกฎหมายฐานยุยงปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรง
ส่วนการชุมนุมของกลุ่มทะลุแก๊ส เมื่อวานนี้ (5 ต.ค.) บริเวณแยกมิตรไมตรี 2 ซึ่งมีการก่อความวุ่นวาย ได้เริ่มตั้งแต่ช่วงค่ำ มีการปาประทัด จุดไฟเผายางรถยนต์บนพื้นถนน บริเวณแยกใต้ด่วนดินแดง จึงมีการจัดกำลังสายตรวจเข้าไประงับเหตุ ทำให้ผู้ชุมนุมหลบหนี ผบช.น ได้สั่งการให้จับตาดูอยู่ตลอดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุหนีไปที่ใด เป็นใคร รวมถึงมีกล้องวงจรปิดชัดเจน ยืนยันมีข้อมูลครบพร้อมเตือนไปยังกลุ่มที่ก่อความวุ่นวาย ก่อเหตุต่างๆ จะมีการดำเนินคดีทุกราย
ส่วนกรณีที่มีสื่อไม่มีสังกัดเข้ามารายงานข่าวในพื้นที่ที่แยกดินแดง และบางครั้งขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจนั้น ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเนื้อหาการถ่ายทอดสดมีการยั่วยุและบิดเบือนข้อมูลหรือไม่ โดยหากไม่มีต้นสังกัดสื่อยืนยันตัวตนก็จะไม่สามารถเข้ามารายงานข่าวในช่วงเวลาเคอร์ฟิวได้
และกรณีเพจทะลุแก๊สสอนประดิษฐ์ระเบิดขวดน้นเจ้าหน้าที่จะทดลองประดิษฐ์ตาม หากประกอบแล้วทำได้จริง ก็ถือมีความผิดตาม พ.ร.บ.วัตถุระเบิดฯ และจะต้องถูกดำเนินคดีต่อไป