ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารและส.ส.พรรคเพื่อไทย ลงมติขับนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ และ นางพรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี พ้นจากสมาชิกพรรค ตามข้อบังคับพรรคเพื่อไทย พ.ศ.2561 โดยใช้เสียง 3 ใน 4 ของสมาชิกพรรค
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค แถลงผลการลงมติว่า คณะกรรมการบริหารพรรคได้พิจารณารายงานการสอบสวนวินัย และจริยธรรมของคณะกรรมการวินัยและจริยธรรมแล้วมีมติ ดังนี้
กรณีของนายศรัณย์วุฒิ มีพฤติการณ์กล่าวหาพรรคและผู้บริหารของพรรคด้วยการแถลงต่อสื่อมวลชนหลายครั้งติดต่อกัน อันมีลักษณะเป็นปฏิปักษ์ต่อพรรค เป็นการทำลายภาพลักษณ์และชื่อเสียงของพรรค ก่อให้เกิดความเสียหายต่อพรรคอย่างร้ายแรง การกระทำดังกล่าว เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับพรรคเพื่อไทย และเป็นการกระทำผิดวินัยและจริยธรรมของการเป็นสมาชิกพรรค จึงเห็นชอบด้วยมติเอกฉันท์ให้ลงโทษนายศรัณย์วุฒิ ด้วยการให้พ้นจากสมาชิกภาพตามข้อบังคับพรรค ตามความเห็นของคณะกรรมการวินัยและจริยธรรม
ส่วนกรณีของนางพรพิมล มีพฤติการณ์ฝักใฝ่พรรคการเมืองอื่น ไม่ยึดมั่นในเจตนารมณ์และอุดมการณ์ของพรรค อีกทั้งเป็นการกระทำผิดซ้ำสองในพฤติการณ์เดียวกัน ซึ่งพรรคได้เคยมีมติลงโทษไปแล้ว ซึ่งการฝักใฝ่พรรคการเมืองอื่นของนางพรพิมล ถือเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับพรรค และถือเป็นการกระทำผิดวินัย และจริยธรรมของการเป็นสมาชิกตามข้อบังคับพรรคข้อ 113 (2) (3) และ (12) จึงเห็นชอบด้วยมติเอกฉันท์ให้ลงโทษนางพรพิมลด้วยการให้พ้นจากสมาชิกภาพตามข้อบังคับพรรค ตามความเห็นของคณะกรรมการวินัยและจริยธรรม
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ในการประชุมร่วมกันระหว่างกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.จำนวน 143 คน มีผู้มาใช้สิทธิออกเสียง 135 คน ซึ่งตามข้อบังคับพรรคต้องใช้เสียง 3 ใน 4 ของจำนวนสมาชิก คือ 108 คน ซึ่งผลการลงคะแนนปรากฏว่า กรณีนายศรัณย์วุฒิ ส.ส.มีมติเห็นด้วยตามมติของกรรมการบริหารพรรคให้ลงโทษด้วยคะแนน 131 เสียง ไม่เห็นด้วย 2 เสียง บัตรเสีย 2 เสียง ส่วนกรณีนางพรพิมล มีมติเห็นด้วย 134 คน ไม่เห็นด้วย 1 เสียง
ดังนั้นที่ประชุมจึงมีมติให้ทั้ง 2 ส.ส.พ้นจากสมาชิกภาพความเป็น ส.ส.ของพรรค และให้มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หลังจากนี้พรรคจะแจ้งทั้ง 2 คนให้รับทราบมติ และพรรคจะได้แจ้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ทราบผลการลงมติดังกล่าว โดยทั้ง 2 สามารถหาพรรคสังกัดใหม่ได้ภายใน 30 วัน
ส่วนจะมีการร้องเรียนหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ก่อนที่พรรคจะมีมติดังกล่าว ทางพรรคได้มีการเชิญให้มาชี้แจงถึงเหตุผลของการกระทำดังกล่าวถึง 2 ครั้ง ซึ่งทั้ง 2 ไม่ได้มาชี้แจงทั้ง 2 ครั้ง ถือว่าพรรคเปิดโอกาสให้มาชี้แจงแล้ว แสดงว่าไม่ประสงค์จะชี้แจง ส่วนกรณีอื่นๆ พรรคได้สอบสวนแล้วเห็นว่าสามารถชี้แจงเหตุผลได้