นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการในการประชุมครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม. สัญจร) ในวันที่ 8 - 9 พ.ย.นี้ ที่จังหวัดกระบี่ เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว รองรับการเปิดประเทศอย่างปลอดภัย (Smart Entry)
พร้อมมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ลงพื้นที่บริเวณจังหวัดหรืออำเภอโดยรอบกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล) เพื่อติดตามการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐ ตลอดจนการรับฟังปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะจากประชาชน ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการให้ กระจายการจองโรงแรม และที่พัก หลายแห่ง เพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงการประชุม ครม. สัญจร
สำหรับการจัดการประชุม ครม. สัญจร ในครั้งนี้ ให้ความสำคัญต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ การบริหารจัดการรองรับนักท่องเที่ยวเพื่อเชื่อมโยง Sandbox อื่น ๆ ยกระดับการท่องเที่ยวที่มีมาตรฐานและคุณภาพระดับโลก รวมทั้ง ยังจะได้มีวาระหารือกับภาคธุรกิจ เอกชน และผู้ประกอบการในพื้นที่ เพี่อส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เศรษฐกิจ วัฒนธรรม การเพิ่มมูลค่าภาคการผลิตเกษตร ประมงและปศุสัตว์ ด้วย
"นายกรัฐมนตรีและที่ประชุม ครม. ยังให้ความสำคัญในการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 ของศบค. โดยมอบหมายให้ ศปก.ศบค. ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข กำกับแนวทางในการจัดประชุม ครม.สัญจร โดยให้ทุกหน่วยงานจำกัดจำนวนเจ้าหน้าที่และผู้ติดตามเท่าที่จำเป็น เพื่อลดความแออัดในพื้นที่ และกำชับให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด" นายธนกร กล่าว
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยการแพร่ระบาดโควิดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงได้มีการการจัดตั้ง ศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ (ศบค.ส่วนหน้า) โดยยืนยันว่า ไม่ใช่เป็นการรวบอำนาจ เน้นบูรณาการทำงานร่วมกัน เพราะทุกหน่วยต้องปฏิบัติตามกฏหมายอยู่แล้ว