น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.เขต 2 ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุถึงกระแสข่าวการปรับโครงสร้างพรรค ว่า เป็นเรื่องที่พรรคกำลังพิจารณาอยู่ โดยขณะนี้คณะกรรมการบริหารพรรคได้มีการหารือร่วมกันอย่างถี่ถ้วน และจะมีการปรับโครงสร้างพรรคในเร็วๆ นี้ เพื่อให้การทำงานของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกของพรรคเป็นไปตามยุทธศาสตร์และแนวนโยบายของพรรค
ส่วนความชัดเจนจะมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งใดหรือไม่นั้น ขอให้รอคณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาแล้วเสร็จก่อน
ด้านนายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้า พปชร. กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการสั่งการใดๆ จากหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างพรรค จึงยังไม่ทราบว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป
ส่วนถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคหรือไม่เนื่องจากเพิ่งเปลี่ยนมาเพียง 3-4 เดือนนั้น นายวิรัช กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับความจำเป็นในแต่ละห้วงเวลา และเป็นอำนาจของหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ส่วนกระแสข่าวที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน จะมาเป็นเลขาธิการพรรคแทน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ก็คงไม่ถึงขั้นนั้น แต่ขณะนี้ยังไม่มีข่าวอะไรเลย
อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นคงจะมีการนัดหารือ ส.ส.พรรคในสัปดาห์นี้ นายวิรัช ยังระบุว่า เสียงของ 6 รัฐมนตรีที่ไปพบนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่ของพรรค และหากมีการประชุมพรรคทั้ง 6 คนควรที่จะมาชี้แจงด้วย
นายวิรัช กล่าวอีกว่า วันนี้ต้องยอมรับว่า พปชร.เกิดจากการหล่อหลอมของสมาชิกที่มาจากหลายส่วน กว่าจะรวมกันติดก็ต้องผ่านการเลือกตั้งกันมา หลายๆ ครั้งมันจะดีขึ้นเอง หากตรงนี้แก้ไขแล้วสามารถเดินต่อได้ดีก็ควรแก้ไข แต่หากแก้ไขแล้ว ยิ่งวุ่นวายก็ไม่ควรแก้ไข ซึ่งการแก้ไขที่บอกอาจจะไม่ได้หมายถึงการปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคเท่านั้น แต่อาจจะหมายถึงส่วนอื่นด้วย
นายวิรัช ยังได้ชี้แจงถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า ไม่เคยมีความคิดแบบนั้นเลย เพราะอยู่กับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พปชร. ดีที่สุดแล้ว
ด้านนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพฯ พปชร. กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับโครงสร้างพรรคด้วยการให้กรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบันลาออกเกินครึ่งหนึ่งว่า อยู่ที่การไตร่ตรองของกรรมการบริหารพรรคที่สมาชิกได้มอบหมายอำนาจไว้ให้แล้ว ส่วนกรรมการชุดนี้จะพ้นจากตำแหน่งหรือไม่ ก็อยู่ที่การตัดสินใจของเสียงส่วนใหญ่
ส่วนกรณีที่มีชื่อ นายสุชาติ จะขึ้นมาเป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่นั้น ก็อยู่ที่สมาชิกส่วนใหญ่เช่นกัน ส่วนตัวเห็นว่าจะเป็นใครก็ได้ ขอให้เป็นสมาชิกส่วนใหญ่เลือกขึ้นมา