นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และกรรมการบริหารพรรค ยืนยันว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายทะเบียนพรรคยังไม่ได้รับใบลาออกจากคณะกรรมการบริหารพรรคแม้แต่คนเดียว แต่จะเก็บไว้กับตัวก่อนหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ อย่างไรก็ดี วันพรุ่งนี้ (28 ต.ค.) จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เวลา 13.30 ซึ่งหากมีประเด็นอะไรที่ขัดข้องหมองใจก็คงจะมาเคลียร์กันในที่ประชุม ถ้าหากยังไม่ลาออก
ส่วนท่าทีของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคฯ ที่มีแนวโน้มว่าจะปรับโครงสร้างของพรรคนั้น นายวิรัช ระบุว่า ต้องรอฟังความชัดเจนในวันพรุ่งนี้ แต่ยอมรับว่าได้พูดคุยกับทั้งหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค ซึ่งเลขาธิการพรรคยังมีกำลังใจดี และเชื่อว่าทุกอย่างจะจบในวันพรุ่งนี้ เพียงแต่ไม่รู้จะจบแบบไหน และไม่ได้เตรียมแผนสำรองไว้หากผลออกมาเป็นทางใดทางหนึ่ง ซึ่งอยู่ที่หน้างาน พร้อมยืนยันว่าว่า จนถึงขณะนี้หัวหน้าพรรคยังไม่ได้ส่งสัญญาณการเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรค
ทั้งนี้ นายวิรัช ไม่ขอตอบประเด็นที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะนั่งเป็นหัวหน้าพรรคเอง ที่ผ่านมาได้พยายามหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึง เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล คงไม่ได้มาเกี่ยวข้อง เพราะรู้ว่าทุกคำพูดที่พูดออกไป อาจมีคนนำไปร้องเรียนได้ จึงต้องระมัดระวังเป็นกรณีพิเศษ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเดินทางไปมูลนิธิป่ารอยต่อหรือไม่ นายวิรัช กล่าวว่า ขอประชุมกรรมาธิการการกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎรก่อน
ส่วนปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ จะส่งผลกระทบต่อการพิจารณากฎหมายในสภาฯ ถึงขั้นกฎหมายไม่ผ่าน เป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรีต้องยุบสภาหรือไม่นั้น นายวิรัช ระบุว่า การบริหารงานในสภาฯ ในฐานะฝ่ายรัฐบาลจะพยายามทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้ มีเทคนิคมาก ซึ่งสามารถชะลอหรือนำญัตติอื่นเข้ามาพิจารณาแทนได้ จึงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้
"หากปล่อยก็โหวต ไม่ไหวก็เลื่อน หรืออย่างที่เคยทำมา มีเทคนิคเยอะแยะ ดังนั้นจึงสามารถชะลอ หรือดึงได้ นำญัตติอื่นเข้ามาได้ จึงไม่ต้องเป็นห่วง เพราะผ่านมาแล้ว 2 ปีครึ่ง ยืนยันว่าคงไม่ถึงขั้นกฎหมายไม่ผ่าน หรือนายกฯ ยุบสภาฯ เพราะไม่มีเหตุผลอะไร" นายวิรัช กล่าว
ด้านนายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ หนึ่งในกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่ได้เซ็นใบลาออกจากกรรมการบริหารพรรค และหัวหน้าพรรคยังไม่ได้เรียกพูดคุย และวันนี้ก็ไม่ต้องเข้าไปพบ พล.อ.ประวิตร ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ พร้อมมองว่า ปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคไม่น่าจะเกี่ยวกับการจัดทำโพล ส.ส.ในภาคใต้แต่อย่างใด