กลุ่มมวลชนเริ่มทยอยมาร่วมตัวชุมนุมบริเวณแยกราชประสงค์ เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ส่งผลให้ต้องปิดการจราจรบนถนนราชดำริจากบริเวณแยกราชประสงค์ถึงแยกประตูน้ำ ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มต่างๆ ได้จัดกิจกรรมอย่างหลากหลาย เช่น การเปิดให้ร่วมลงชื่อยกเลิกกฎหมายอาญา มาตรา 112 ของกลุ่มแอมเนสตี้และกลุ่มไอลอว์, การจัดเวทีปราศรัยของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เป็นต้น
น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ กล่าวว่า การนัดชุมนุมในวันนี้เพื่อเรียกร้องให้มีการยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 112 และเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ชุมนุมในความผิดมาตรา 112 ซึ่งเชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงและความวุ่นวาย โดยวันนี้จะเปิดให้ประชาชนร่วมลงชื่อคัดค้านมาตรา 112 ด้วย ซึ่งตนเองและตัวแทนกลุ่มแอมเนสตี้จะรวบรวมรายชื่อประชาชนเพิ่มเติมจากที่มีอยู่แล้วราว 2 หมื่นรายชื่อไปยื่นต่อรัฐบาลที่ทำเนียบรัฐบาลในวันพรุ่งนี้ (1 พ.ย.64)
"วันนี้ไม่กังวล คิดว่าไม่จำเป็นที่ตำรวจต้องใช้กำลังสลายการชุมนุม เพราะเป็นกิจกรรมอยู่กับที่ ไม่มีการเคลื่อนมวลชน และมีเวลาที่ชัดเจนไม่เกินสามทุ่ม หากจะเลทออกไปบ้างก็ไม่น่าจะเกินสี่ทุ่ม" น.ส.ปนัสยา กล่าว
ส่วนกรณีที่พนักงานสอบสวนจะไปยื่นคำร้องให้ศาลพิจารณาถอนประกันตัวนั้น น.ส.ปนัสยา กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ตนเองอาจถูกถอนประกันตัวได้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล แต่เงื่อนไขการประกันตัวไม่ได้ห้ามการชุมนุม แต่ต้องไม่ใช่การชุมนุมที่มีความวุ่นวายเกิดขึ้น ขณะเดียวกันก็มีมาตรการคัดกรองเบื้องต้นเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น.หลังจาก น.ส.ปนัสยา ได้ขึ้นเวทีปราศรัยบนเวทีบริเวณแยกราชประสงค์ เพื่ออ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้มีการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จบแล้ว น.ส.ปนัสยาได้ใช้มีดกรีดแขนตัวเองต่อหน้ากลุ่มผู้ชุมนุม