พรรคพลังประชาชนวุ่นผู้สมัครส.ส.สัดส่วนโวยถูกมือดีเสียบชื่อแกนนำนปก.

          พลังประชาชนป่วนโผบัญชีผู้สมัครส.ส.สัดส่วนพื้นที่กทม.-ปริมณฑลพลิกนาทีสุดท้าย ลูกพรรคก่อกระแสไม่พอใจเปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้สมัครเดิมบางคนโดยไปใส่ชื่อแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)หรือกลุ่มนปก.เดิม ให้เข้ามาลงสมัครแทน ขณะที่ประธานคณะกรรมการภาค กทม.ยืนยันว่ายังไม่มีผู้สมัครรายใดตัดสินใจลาออก 
          นายสุวัฒน์ วรรณศิริกุล ประธานคณะกรรมการภาค กทม.พรรคพลังประชาชน เชื่อว่าเป็นเพียงการปล่อยข่าวเท่านั้นว่าจะมีผู้สมัครที่ไม่พอใจจะตัดสินใจลาออกจากพรรค เพราะปัญหายังไม่บานปลายไปถึงขั้นนั้น เพียงแต่ยอมรับว่ากลุ่มผู้สมัครในเขตกรุงเทพฯ รู้สึกน้อยใจที่มีการเปลี่ยนแปลงรายชื่อโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ซึ่งหลังจากที่ได้หารือกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการภาค กทม. พรรคไทยรักไทย ได้เตือนให้ใจเย็นไว้ก่อน 
          ดังนั้น ทางกลุ่มผู้สมัครของ กทม.จะขอเรียกร้องให้นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ช่วยชี้แจงในเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจน แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่หากผู้สมัครคนใดไม่พอใจก็อาจจะเว้นวรรคไม่ขอลงรับสมัครเลือกตั้งในครั้งนี้
          "มันมีแต่ความคิด ยังไม่ได้ลาออก ถ้าไม่คุยกันให้รู้เรื่อง บางคนอาจจะขอเว้นวรรคแล้วไม่ลง" นายสุวัฒน์ กล่าวในรายการวิทยุเช้านี้
          รายงานข่าวระบุว่า รายชื่อจากที่ประชุมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. มีมติเห็นชอบในตอนแรก นายสมัคร สุนทรเวช, ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง, นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ, พล.ต.อ.ชัชจ์ กุลดิลก, นายธวัชชัย สุทธิบงกช, นายปลอดประสพ สุรัสวดี, นายพิทยา พุกกะมาน,นายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ, นายคณวัฒน์ วสินสังวร และ พล.ต.อ.จำลอง เอี่ยมแจ้งพันธุ์ แต่ปรากฏว่ามีการนำชื่อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายมานิตย์ จิตติ์จันทร์กลับ มาแทรกในลำดับที่ 4 และ 5 ทำให้ชื่อของนายจารุพงษ์ และนายคณวัฒน์ ถูกตัดออกไป
          อย่างไรก็ดี เวลา 10.30 น. พรรคพลังประชาชนได้นัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคร่วมกับคณะกรรมการศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง เพื่อรับรองผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)จะเปิดรับสมัครในวันที่ 12-16 พ.ย.นี้
          ด้านนายนพดล ปัทมะ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรควันนี้ เชื่อว่าจะมีการหารือและตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีโผผู้สมัคร ส.ส.แบบสัดส่วน ถูกเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้เป็นความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งควรจะต้องจัดการให้มีความโปร่งใสชัดเจนและสร้างความเป็นประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นในพรรค  
          แต่ทั้งนี้ยืนยันว่า จะไม่ออกมาเคลื่อนไหวกดดันใดๆ แม้ตัวเองจะเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกปรับเปลี่ยนรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.แบบสัดส่วน ในกลุ่ม 5 จากลำดับแรกลงมาอยู่ลำดับ 4 เพียงแต่ยอมรับว่าเป็นธรรมดาที่รู้สึกผิดหวังและรับไม่ได้กับการกระทำของคนบางกลุ่ม
          "ผมจะไม่เคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น แม้รับไม่ได้ แต่ก็ต้องยอมรับ เราต้องเอาผลประโยชน์ชาติ ผลประโยชน์ส่วนรวมหรือของพรรคมาก่อนผลประโยชน์ส่วนตัว ใครทำอะไรลงไปการกระทำมันจะสะท้อนในตัวของมันเอง แม้จะผิดหวังเพราะรู้สึกว่ากระบวนการจะต้องโปร่งใสชัดเจนกว่านี้ ไม่ใช้ให้ใครเอาชื่อไปยัดใส่ โดยไม่ใช่การดำเนินการของคณะผู้บริหารพรรค" นายนพดล กล่าว
          รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า เรื่องของศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เป็นเรื่องที่สำคัญ และที่ผ่านมาได้ทำงานต่อสู้เพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคไทยรักไทย มาโดยตลอด แต่กลับได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ 
          "ถ้าจะเอาชื่อผมลงลำดับ 4 เตะผมลงไปโดยไม่ใช่ความเห็นของคนของพรรค แต่เป็นแค่การกระทำของคนบางคน ผมไม่ลงดีกว่า ไปอยู่บัญชี 2(แบบแบ่งเขต) ก็ได้ คนเราศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์มันสำคัญ ผมต่อสู้เพื่อท่านทักษิณ มาเป็นปี ผมไม่ควรถูกปฏิบัติแบบนี้" นายนพดล กล่าว
          นายนพดล ยังเปิดเผยว่า วานนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์มาหารือเรื่องดังกล่าวแล้ว และเข้าใจดีว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ทราบมาก่อนว่าจะมีการกระทำในลักษณะเช่นนี้