ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำให้กรมศุลกากรเร่งปรับโครงสร้างพื้นฐานรองรับการค้าชายแดน และประสานกรมควบคุมโรค ตรวจหาสารพันธุกรรมเชื้อโควิด-19 ไปพร้อมกัน โดยเฉพาะด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก พร้อมทั้งย้ำให้ ศอ.บต.ประสานการทำงานเร่งผลักดันโครงการที่ยังค้างให้เป็นไปเป็นรูปธรรมตามแผนโดยเร็ว โดยเฉพาะการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโกลก ที่ อ.สุไหงโก-ลก และ อ.ตากใบ และขอให้ฝ่ายปกครองในพื้นที่ ยังคงต้องเข้มมาตรากรป้องกันและควบคุมโรคต่อเนื่องกันไปโดยไม่ประมาท
ต่อจากนั้น ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.สงขลา พบปะและให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมในพื้นที่ ต.ปากบาง และตรวจติดตามการแก้ปัญหาน้ำท่วมและน้ำหลากในพื้นที่บริเวณ ปากแม่น้ำเทพา อ.เทพา ซึ่งเป็นปัญหาต่อเนื่องหลายปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งร่วมประชุมกับส่วนราชการต่างๆและภาคเอกชน เพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง การพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคม บริเวณปากแม่น้ำเทพาและพื้นที่ใกล้เคียง
โดย พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการกรมเจ้าท่า และ จ.สงขลา ให้เร่งก่อสร้างกำแพงป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งยาว 2 กม.บริเวณปากแม่น้ำเทพา ตามแผนงานโดยเร็ว โดยให้ทำความเข้าใจกับประชาชนไปพร้อมกัน เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากน้ำท่วมซ้ำซากและปัญหาขาดแคลนน้ำที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.เทพาต่อเนื่องกันมายาวนาน
พร้อมทั้งให้ ศอ.บต.ร่วมกับทางจังหวัด บูรณาการแผนงานเชิงพื้นที่ยกระดับการพัฒนาเป็น "ศูนย์กลางการ กระจายสินค้าจังหวัดชายแดนภาคใต้" เสนอแผนงานเข้า ครม.ขอรับการสนับสนุนงบประมาณโดยเร็ว เพื่อยกระดับเศรษฐกิจพื้นที่และคุณภาพชีวิตชุมชนไปพร้อมกัน ทั้งนี้ รอง นรม.ยังมอบให้ สทนช.เร่งขับเคลื่อนบูรณาการแก้ปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง โดยเฉพาะแผนเผชิญเหตุเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้และการเก็บสำรองน้ำไว้รองรับฤดูแล้งคราวเดียวกัน