พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. เปิดเผยผ่านรายการโทรทัศน์ถึงภาพรวมสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม รวมถึงภาคีเครือข่ายวานนี้ (14 พ.ย.) ว่า ผู้ชุมนุมมีการเคลื่อนขบวนและพยายามทำลายแนวกั้นของตำรวจบริเวณแยกเฉลิมเผ่า และขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ จนมีตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ก่อนที่ผู้ชุมนุมจะเคลื่อนขบวนต่อไปยังหน้าสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ และได้ขว้างปาระเบิดขึ้น เนื่องจากระยะประชิดอาจเกิดอันตรายกับตัวเจ้าหน้าที่ได้ ทำให้ตำรวจจำเป็นต้องยิงกระสุนยาง เพื่อป้องกันตนเอง และในเหตุชุลมุนบริเวณนี้ มีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บ 2 ราย จากนั้นที่บริเวณแยกวิทยุ หลังผู้ชุมนุมยื่นหนังสือที่สถานเอกอัครราชทูตเยอรมนี ประจำประเทศไทย ก็มีการขว้างปาระเบิดบริเวณแยกวิทยุ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย
รายแรกถูกยิงบริเวณไหปลาร้า ซึ่งขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ส่วนอีกรายเป็นชายอายุ 23 ปี มีอาการหนักมากที่สุด เนื่องจากถูกยิงบริเวณลิ้นปี่ ทำให้เศษกระดูกทิ่มบริเวณใกล้ปอด จึงต้องทำการรักษา และติดตามรายละเอียดจากแพทย์อีกครั้ง โดยขณะนี้โรงพยาบาลตำรวจได้ประสานงานกับโรงพยาบาลจุฬาฯ แล้ว ทั้งนี้ ยังไม่มีการสอบปากคำผู้บาดเจ็บหนักทั้ง 2 ราย
ในส่วนของผู้ชุมนุมที่มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยบริเวณแขนซ้ายอีก 1 ราย ได้เดินทางเข้าแจ้งความบริเวณสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถระบุชนิดของกระสุนได้ จึงต้องมีการตรวจสอบชิ้นส่วนของอาวุธในบาดแผลอีกครั้ง
ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่มีการใช้กระสุนจริงตามที่เป็นข่าว ใช้เพียงกระสุนยางเท่านั้น ส่วนระยะที่ใช้จะใกล้เกินไปหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของกระสุนยางที่ใช้ นอกจากนี้มีการขว้างปาระเบิดขวดก่อน ดังนั้นสาเหตุของการบาดเจ็บ ตำรวจจำเป็นต้องประสานแพทย์โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ในการพิสูจน์ทราบบาดแผลว่าเกิดจากสาเหตุใดก่อน ยังไม่สามารถสรุปได้ในขณะนี้
"ในสถานการณ์ที่มีการชุลมุน เมื่อมีการกระทำความผิด การที่จะสรุปว่าใครเป็นผู้กระทำความผิด และใครเป็นผู้ก่อเหตุ น่าจะเป็นเรื่องยาก ต้องใช้เวลาในการรวบรวมหลักฐาน อย่างไรก็ตามจะพยายามดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ทั้งนี้ จะมีการสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐาน ของผู้บาดเจ็บบริเวณไหปลาร้าวันนี้" โฆษก บช.น. กล่าว
ส่วนการเผาทำลายศาลไม้จำลอง และเผาหุ่นฟางตุลาการจำลองนั้น พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน หากเข้าข่ายความผิดหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษา จะดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยทางหน่วยงานตุลาการไม่จำเป็นต้องร้องทุกข์เป็นผู้เสียหาย ส่วนความผิดอื่นๆ เช่น ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, เหตุขว้างปาระเบิด ทำร้ายเจ้าหน้าที่, และการทำลายทรัพย์สิน เช่น ตู้ไฟจราจร อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดผู้ฝ่าฝืนเช่นกัน