นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติเป็นเอกฉันท์ที่จะรับหลักการร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน เนื่องจากเห็นด้วยกับหลักการและเหตุผลที่มีการเสนอแก้ไขมาทั้ง 10 ประการ
อีกทั้งรัฐธรรมนูญปี 60 เป็นการสืบทอดอำนาจจากคณะรัฐประหาร และไม่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งอยากให้พรรคร่วมรัฐบาลและวุฒิสมาชิกได้ใช้วิจารณญาณพิจารณา
หากที่ประชุมรัฐสภาไม่ใช้โอกาสนี้รับหลักการร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจะนำไปสู่วิกฤตทางการเมือง หลังจากมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการริดรอนสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมอย่างสงบ
"เมื่อผ่านกระบวนการคิดที่ดีแล้ว หากจะมีรัฐสภาแบบสภาเดี่ยวเราก็คิดว่ายอมรับได้ ขอยืนยันว่าทุกเสียงของฝ่ายค้านยกเว้นคนที่ป่วยจะรับหลักการร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญด้วยความเต็มใจ เพื่อแก้ไขวิกฤตชาติ การสืบทอดอำนาจเผด็จการ" นพ.ชลน่าน กล่าว
หากไม่มีการแก้ไข ผู้แทนที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นตัวแทนประชาชนจะไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย เพราะจะถูกจำกัดความคิดด้วยแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี ใครจะเสนอความคิดเห็นในการพัฒนาประเทศชาติที่แตกต่างไปจากแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีก็ไม่ได้
ด้านนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ตนเองเห็นด้วยกับการเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของภาคประชาชนในหลายประเด็น เช่น การปฏิรูปศาลรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับที่มาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและอำนาจ เนื่องจากเห็นว่ามีอำนาจเกินกว่ารัฐธรรมนูญจนทำให้เกิดความวุ่นวายไปหมด
แต่การเสนอให้ยกเลิกวุฒิสภาไปทั้งหมดแล้วเป็นสภาเดี่ยวไม่น่าจะเกิดผลดี หากเกิดความผิดพลาดของสภาผู้แทนราษฎรแล้วไม่มีกลั่นกรองหรือท้วงติงจะเป็นอันตรายมาก เพราะเกิดผลกระทบอย่างรุนแรง ดังนั้นน่าจะมีการปรับลดจำนวนหรือกำหนดกรอบอำนาจและหน้าที่ให้เหมาะสม
"อย่าหักด้ามพร้าด้วยเข่า ไม่ใช่สภาผู้แทนราษฎรจะไม่เกิดความผิดพลาด ในอดีตก็เคยมีบทเรียนมาแล้ว" นายวีระกร กล่าว
ส่วนข้อเสนอเกี่ยวกับระบบเลือกตั้งที่เสนอให้ใช้บัตรใบเดียวจะกลับไปสู่ปัญหาเดิมๆ เช่น สูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ที่เพิ่งดำเนินการแก้ไขไปแล้ว