นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับที่แก้ไขหรือฉบับใหม่นี้ ถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ให้ความสำคัญกับพรรคการเมืองมากขึ้น เพราะการเลือกตั้งโดยใช้บัตรใบเดียวนั้น ต้องเอาคนกับพรรคมามัดรวมกัน ประชาชนไม่สามารถแยกได้ว่าต้องการเลือกคนแต่ไม่เลือกพรรค หรือเลือกพรรคแต่ไม่เลือกคน เพราะฉะนั้นตัวบุคคลจะมีความสำคัญสำหรับบัตรใบเดียว แต่ทำให้พรรคการเมืองดูเหมือนจะถูกด้อยค่าลงไป
"หลักการประชาธิปไตยนั้น พรรคการเมืองควรเป็นสถาบัน หรือกลไกที่มีความสำคัญเป็นลำดับต้น เพราะถ้าพรรคการเมืองไม่เข้มแข็ง ไม่มีความสำคัญ ประชาธิปไตยก็จะไปยาก เมื่อเป็นแบบบัตร 2 ใบแล้ว ก็คิดว่าจะทำให้พรรคการเมืองมีความสำคัญขึ้น การลงสมัครรับเลือกตั้ง นอกจากประชาชนจะพิจารณาตัวบุคคลแล้ว ก็ต้องพิจารณาพรรคการเมืองด้วย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี และประชาธิปัตย์ก็สนับสนุนมาตลอด มาถึงวันนี้เมื่อรัฐธรรมนูญเป็นแบบนี้ ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการสร้างความเข้มแข็งในระบอบประชาธิปไตยรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขต่อไป" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
อย่างไรก็ดี ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์คงไม่ต้องปรับอะไร เพราะคุ้นเคยกับระบบนี้อยู่แล้ว เพียงแต่เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับปี 60 มาแก้เป็นบัตรใบเดียวนั้น อาจทำให้ต้องปรับตัวและทุกพรรคก็ต้องปรับตัว
"ถ้าย้อนกลับไปใช้บัตร 2 ใบ มันเป็นสิ่งที่เราเคยทำมาแล้ว ประชาชนก็เข้าใจดีอยู่แล้ว บัตรใบที่ 1 ก็เลือกบุคคล บัตรใบที่ 2 ก็เลือกพรรคการเมือง มันมีความชัดเจนในตัวของมัน" นายจุรินทร์กล่าว
ส่วนเรื่องหมายเลขประจำตัวผู้สมัคร และหมายเลขพรรคนั้น มองว่าควรจะเป็นเบอร์เดียวกัน เพื่อความสะดวกของประชาชนในการพิจารณาและตัดสินใจ และกำลังดำเนินการอยู่ในเรื่องตัวบุคคล เพราะมีความคืบหน้ามาก โดยหลักก็ควรจะส่งให้ครบทุกเขต
ส่วนกรณีที่มีอดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาให้ความเห็นว่าการใช้ระบบนี้จะเป็นการเทคะแนนให้พรรคเพื่อไทยนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อยู่ที่ประชาชน การวิเคราะห์วิจารณ์อาจจะตรงหรือไม่ตรงกับข้อเท็จจริงก็ได้ ถึงเวลาประชาชนอาจจะพิจารณาไปทางใดทางหนึ่งก็ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับเสียงของพี่น้องประชาชน
"มันก็คือการคาดคะเนเท่านั้น และประชาธิปัตย์เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญในร่างนี้ ก็ด้วยเหตุผลที่ต้องการให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง แล้วก็ไม่ได้ไปพิจารณาว่าจะเป็นประโยชน์ของพรรคการเมือง พรรคไหนได้เปรียบ-เสียเปรียบ เราต้องการให้ระบอบประชาธิปไตยระบบรัฐสภาไทยได้เปรียบ ได้มีความเข้มแข็ง" นายจุรินทร์ ระบุ
ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชพท.) ยืนยันพร้อมสู้การเลือกตั้งไปตามกติกาที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะไม่ว่าการเลือกตั้งจะเป็นบัตรใบเดียวหรือบัตรสองใบต่างก็มีข้อดีข้อเสีย โดยข้อดีของแบบบัตรสองใบ คือ พรรคการเมืองไม่ต้องส่งผู้สมัครครบทั้ง 400 เขต และไม่สามารถไปประเมินได้ว่าจะส่งผลให้ผู้สมัครของพรรคการเมืองใดได้รับการเลือกตั้งลดลงหรือเพิ่มขึ้น เพราะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน
"การเลือกตั้งแต่ละครั้ง ก็มีปัจจัยแตกต่างกันไป ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าพรรคเล็กและกลางจะสูญพันธุ์" นายวราวุธ กล่าว
ส่วนการจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลนั้น ต้องรอดูผลการเลือกตั้งก่อน เมื่อมีการเลือกตั้งใหม่ก็จะเป็นการล้างไพ่ใหม่ ซึ่งการตัดสินใจร่วมรัฐบาลก็จะดูแนวนโยบายว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ นอกจากนี้ยังเห็นด้วยที่จะให้ใช้เบอร์เดียวกันทั้งประเทศ เพื่อป้องกันความสับสน
ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองต้องการเจาะฐานเสียงในจังหวัดสุพรรณบุรีนั้น นายวราวุธ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ทุกคนคิดได้ แต่จะทำได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง เพราะจังหวัดสุพรรณบุรีไม่ได้เป็นของพรรคการเมืองใด แต่ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนาเองนั้น มีการทำงานในพื้นที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยของนายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นหัวหน้าพรรคแล้ว