นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ตอบกระทู้นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กรณีการเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จะมีความเชื่อมโยงกันกับการที่ไม่ถูกเชิญไปร่วมประชุมสุดยอดเพื่อประชาธิปไตยว่า การไปเยือนครั้งนี้เป็นไปตามกติกาสังคมสากล เรื่องมนุษยธรรม และในฐานะที่เมียนมาเป็นประเทศเพื่อนบ้าน โดยไม่ได้ไปเยือนแบบลับ ๆ ล่อๆ แต่ไปตามสถานการณ์และความจำเป็น
เมียนมา เป็นประเทศสำคัญในด้านยุทธศาสตร์ มีชายแดนติดต่อจีน อินเดีย ไทย และประเทศอื่นๆ มีเหตุการณ์เกิดขึ้นในชายแดนจำนวนมาก เป็นที่รับรู้หลายประเทศ ทำให้มีคำร้องขอต่อไทยให้ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมเมียนมาในแง่มนุษยธรรม ดังนั้น การเรียกร้องของนานาประเทศมาจากสภาวะที่เป็นจริง
"ก่อนที่จะเดินทางไปเยือนเมียนมา ไทยได้ร่วมกับอาเซียนในการจัดส่งของเข้าไปให้กับกาชาดสากลที่ปฏิบัติงานอยู่ เรามีเส้นทางพิเศษที่เรียกว่าศูนย์ช่วยเหลือโลจิสติกส์ อยู่ที่ไชน่า และเมื่อวันที่ 14 พ.ย. เราได้สิ่งของบริจาคโดยตรงจากภาคเอกชนของเรา รวม 17 ตัน แต่เอาไปได้แค่ 11 ตัน แต่ทั้งหมดย้ำว่าเพื่อกาชาดในเมียนมา สิ่งต่างๆ ที่ไทยดำเนินการ ล้วนแล้วแต่ได้รับการต้อนรับจากผู้ที่เกี่ยวข้อง" รมว.ต่างประเทศ กล่าว
สำหรับท่าทีของไทยที่มีต่อเมียนมาในการทำรัฐประหารนั้น นายดอน กล่าวว่า ไทยพยายามสื่อสารว่าให้หาช่องทางพุดคุยปรองดอง แบ่งสรรอำนาจ โดยในวันที่เดินทางไปเยือนยังได้มีการพูดคุยกันว่าต้องหยุดความรุนแรง และปล่อยนักโทษทางการเมืองโดยเร็ว
ส่วนการเชิญประชุมสุดยอดเพื่อประชาธิปไตยนั้น นายดอน กล่าวว่า เรื่องนี้บางทีเป็นเหมือนดาบสองคม บางครั้งไม่เชิญก็ถือเป็นเรื่องดีเหมือนกัน แม้จะไม่มีคำเชิญก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องตื่นตระหนก ขณะเดียวกันแม้จะได้รับเชิญก็ไม่ต้องลิงโลด แต่ต้องพิจารณาว่าจะไปร่วมหรือไม่ไปร่วมเสียก่อน