เลือกตั้ง'50: รับสมัครส.ส.แบ่งเขต ต้องจับสลากแยกเขต-แยกเบอร์

          บรรยากาศรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตวันแรกคึกคักเกือบทุกจังหวัด พรรคการเมืองขนาดใหญ่ส่งผู้สมัครคนสำคัญลงชิงชัยในสนามจังหวัดใหญ่ ๆ โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นหัวใจหลักของแต่ละพรรคอย่าง กทม., เชียงใหม่, สุพรรณบุรี หรือ นครราชสีมา หัวหน้าทุกพรรคนำทีมผู้สมัครเดินลงสนามพร้อมหน้า ขณะที่อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยออกหน้าเป็นพี่เลี้ยงผู้สมัครในพื้นที่ของตัวเองอย่างชัดเจน 
          สำหรับสนามรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตในกรุงเทพฯ หลังจากที่แต่ละพรรคไม่สามารถตกลงกันได้เรื่องหมายเลขของผู้สมัครในแต่ละเขตเลือกตั้ง จึงทำให้ต้องมีการจับสลากหมายเลขผู้สมัครแบบแยกเขตแยกเบอร์ โดยหมายเลขผู้สมัคร ส.ส.ระบบแบ่งเขต ของพรรคการเมืองสำคัญในแต่ละเขต เป็นดังนี้ 
          เขต 1(ดุสิต-พระนคร-ป้อมปราบศัตรูพ่าย-สัมพันธวงศ์-บางรัก-ปทุมวัน-ราชเทวี) พรรคประชาธิปัตย์ ได้เบอร์ 4-6, พรรคพลังประชาชน ได้เบอร์ 13-15, พรรคชาติไทย ได้เบอร์ 10-12 และพรรคเพื่อแผ่นดิน ได้เบอร์ 1-3 เป็นต้น
          เขต 2(สาทร-บางคอแหลม-ยานนาวา-คลองเตย-วัฒนา) พรรคประชาธิปัตย์ ได้เบอร์ 13-15, พรรคพลังประชาชน ได้เบอร์ 16-18, พรรคชาติไทย ได้เบอร์ 10-12 และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ได้เบอร์ 1-3 เป็นต้น
          เขต 3(ดินแดง-ห้วยขวาง-วังทองหลาง-ลาดพร้าว) พรรคประชาธิปัตย์ ได้เบอร์ 7-8, พรรคพลังประชาชน ได้เบอร์ 16-18, พรรคชาติไทย ได้เบอร์ 10-12, และพรรคประชาราช ได้เบอร์ 19-21 เป็นต้น
          เขต 4(บางซื่อ-หลักสี่-จตุจักร-พญาไท) พรรคประชาธิปัตย์ ได้เบอร์ 10-12, พรรคพลังประชาชน ได้เบอร์ 7-9, พรรคชาติไทย ได้เบอร์ 4-6 และพรรคเพื่อแผ่นดิน ได้เบอร์ 1-3 เป็นต้น
          เขต 5(บางเขน-สายไหม-ดอนเมือง) พรรคประชาธิปัตย์ ได้เบอร์ 1-3, พรรคพลังประชาชน ได้เบอร์ 13-15, พรรคชาติไทย ได้เบอร์ 4-6 และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ได้เบอร์ 7-9 เป็นต้น
          เขต 6(หนองจอก-คลองสามวา-คันนายาว-บึงกุ่ม) พรรคประชาธิปัตย์ ได้เบอร์ 1-3, พรรคพลังประชาชน ได้เบอร์ 10-12, พรรคชาติไทย ได้เบอร์ 4-6 และพรรคเพื่อแผ่นดิน ได้เบอร์ 13-15 เป็นต้น
          เขต 7(บางกะปิ-สะพานสูง-มีนบุรี-ลาดกระบัง) พรรคประชาธิปัตย์ ได้เบอร์ 7-9, พรรคพลังประชาชน ได้เบอร์ 19-21, พรรคชาติไทย ได้เบอร์ 16-18 และพรรคเพื่อแผ่นดิน ได้เบอร์ 10-12 เป็นต้น
          เขต 8(สวนหลวง-ประเวศ-บางนา-พระโขนง) พรรคประชาธิปัตย์ ได้เบอร์ 7-9, พรรคพลังประชาชน ได้เบอร์ 16-18, พรรคชาติไทย ได้เบอร์ 13-15 และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ได้เบอร์ 10-12 เป็นต้น
          เขต 9(ธนบุรี-คลองสาน-บางกอกใหญ่-จอมทอง) พรรคประชาธิปัตย์ ได้เบอร์ 13-15, พรรคพลังประชาชน ได้เบอร์ 4-6, พรรคชาติไทย ได้เบอร์ 7-9 และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ได้เบอร์ 10-12 เป็นต้น
          เขต 10(ราษฎร์บูรณะ-ทุ่งครุ-บางขุนเทียน-บางบอน) พรรคประชาธิปัตย์ ได้เบอร์ 4-6, พรรคพลังประชาชน ได้เบอร์ 13-15, พรรคชาติไทย ได้เบอร์ 10-12 และพรรคเพื่อแผ่นดิน ได้เบอร์ 1-3 เป็นต้น
          เขต 11(ภาษีเจริญ-บางแค-หนองแขม) พรรคประชาธิปัตย์ ได้เบอร์ 7-9, พรรคพลังประชาชน ได้เบอร์ 1-3, พรรคชาติไทย  ได้เบอร์ 13-15 และพรรคประชาราช ได้เบอร์ 10-12 เป็นต้น
          เขต 12(บางพลัด-บางกอกน้อย-ตลิ่งชัน-ทวีวัฒนา) พรรคประชาธิปัตย์ ได้เบอร์ 10-12, พรรคพลังประชาชน ได้เบอร์ 1-3, พรรคชาติไทย ได้เบอร์ 7-9 และพรรคมัชฌิมาธิไตย ได้เบอร์ 4-6 เป็นต้น
          นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขอความร่วมมือทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยประชาสัมพันธ์หมายเลขผู้สมัครส.ส.แบบแบ่งเขต เพื่อป้องกันความสับสนแก่ประชาชนที่จะไปใช้สิทธิเลือกตั้ง หลังจากผู้สมัคร ส.ส.แต่ละพรรคตกลงกันไม่ได้ต้องจับสลากแยกเขต แยกเบอร์
          "เราก็เสียดายที่พรรคการเมืองตกลงกันไม่ได้ แต่จากนี้ไปก็คงต้องขอความร่วมมือ จากกกต.หน่วยงานราชการ และพรรคการเมืองให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์หมายเลขให้ประชาชนได้รับทราบมากที่สุด" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
          ส่วนผลสำรวจความคิดเห็นของสวนดุสิตโพลที่ออกมาว่าประชาชนในเขตกทม.ชื่นชอบพรรคประชาธิปัตย์เป็นอันดับหนึ่งนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คะแนนระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคคู่แข่งสำคัญไม่ได้แตกต่างกันมาก แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ การที่พรรคประชาธิปัตย์จะจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน ถ้าประชาชนให้โอกาสพรรคก็พร้อม
          "อยู่ที่ประชาชน หากพี่น้องประชาชนเลือกเรามากๆ ก็มีโอกาสจะจัดตั้งรัฐบาลได้" นายอภิสิทธิ์ ระบุ
          ด้านนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ตำหนิผู้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 ที่ทำให้เกิดปัญหาและความยุ่งยากในการรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส. พร้อมทั้งประกาศว่าหากประชาชนต้องการจะให้แก้ไขรัฐธรรมนูญให้เลือกพรรคพลังประชาชนให้เกินครึ่ง
          "กรุณาเลือกพลังประชาชนให้ได้เกินครึ่ง ไม่งั้นรัฐธรรมนูญไปไม่รอด...ผมขอตำหนิคนทำรัฐธรรมนูญ มันทำให้เกิดความยุ่งยาก"หัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าว
          พร้อมันนี้นายสมัคร ยังเสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดพิมพ์ชื่อพรรคการเมืองแนบท้ายหลังหมายเลขผู้สมัครลงในบัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขตด้วย เพื่อจะได้ป้องกันความสับสนของประชาชนในการไปลงคะแนนใช้สิทธิเลือกตั้ง