หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ประกาศพร้อมนั่งเป็นนายกรัฐมนตรีหากได้คะแนนเสียงข้างมาก และมั่นใจนโยบายพรรคจะสามารถแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้หลังลงพื้นที่รับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนทั่วทุกภาคแล้ว
"ถ้าเลือกพรรคประชาธิปัตย์มากสุด ผมก็พร้อมทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็ต้องฟังเสียงประชาชนว่าเลือกมาอย่างไร และเห็นว่าการจัดรัฐบาลแข่งกันคงเป็นไปไม่ได้ ซึ่งยังไม่เคยเห็นมาก่อน" นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวทางรายการโทรทัศน์เช้านี้
ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ได้ใช้เวลาเตรียมตัวในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เพื่อเตรียมหาทางแก้ปัญหาให้ประชาชน โดยลงพื้นที่ไปพบปะกับประชาชนทุกภาคทุกสาขชาอาชีพเพื่อรับฟังความเห็น
"ผมยืนยันว่าหลังการเลือกตั้ง เมื่อทุกพรรคแสดงจุดยืนที่ชัดเจน ประชาชนทราบและตัดสินใจแล้ว ทุกพรรคการเมืองต้องฟังเสียงประชาชน ผมทำงานการเมืองมา 10 กว่าปี ผมรู้ว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ แปลว่าเราต้องฟังเสียงประชาชน หลังจากที่เขาได้ตัดสินแล้ว"นายอภิสิทธิ กล่าว
อย่างไรก็ดี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ประกาศว่าพร้อมที่จะทำงานได้ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน ซึ่งที่ผ่านมาได้พิสูจน์เรื่องดังกล่าวแล้ว
นายอภิสิทธิ์ ปฏิเสธว่าการหารือของแกนนำพรรคประชาธิปัตย์และพรรคชาติไทยเมื่อวานนี้(6 พ.ย.) ไม่ได้ประกาศจับขั้วทางการเมืองก่อนเลือกตั้ง แต่เป็นเพราะเมื่อวานนี้เป็นวันสุดท้ายก่อนที่พรรคการเมืองจะสมัคร และพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำงานร่วมกันกับพรรคชาติไทยมา 2 ปีกว่า จึงได้นั่งคุยกันเป็นครั้งสุดท้ายและหลังจากนี้ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปรณรงค์หาเสียง
"ผมมั่นใจคุณบรรหาร(หัวหน้าพรรคชาติไทย) คิดว่าท่านได้พูดอะไรชัดเจนแล้ว ไม่มีประโยชน์อะไรว่าผมหรือใครต้องไปคาดคั้นท่าน หรือว่าท่านจะตัดสินใจอย่างไร เป็นสิทธิของท่านอยู่แล้ว ผมถือว่าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ ณ วันนี้สำคัญที่สุดคือการเข้าหาประชาชนเพื่อจะบอกว่าจะทำอะไรให้ประชาชน"นายอภิสิทธิ กล่าว
ทั้งนี้ เรื่องสำคัญด้านนโยบายเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ มีเป้าหมายจะลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ จากยอดขายดีเซล ,น้ำมันแก๊สโซฮอล์ และ ไบโอดีเซล เพื่อบรรเทาภาระของประชาชน รวมทั้งผลักดันการยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% และเพิ่มเงินค่าครองชีพให้กับประชาชน
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--