นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีมติขับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เลขาธิการ พปชร. และส.ส. รวม 21 คน จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของเสียง ส.ส. ฝั่งรัฐบาลในสภาหรือไม่ว่า สถานการณ์ที่มีการขับ ส.ส.ออก หรือมีพรรคร่วมพรรคใดพรรคหนึ่งออกไป ก็เคยมีมาแล้วในแต่ละยุค ซึ่งครั้งนี้ต้องให้ความเห็นใจพรรคที่มีสถานการณ์ทางการเมืองเช่นนี้
นายชินวรณ์ กล่าวต่อว่า ในฐานะรองประฐานวิปรัฐบาลยังมั่นใจว่ามี ส.ส. 475 เสียงในขณะนี้ ซึ่งการประชุมสภาต้องใช้เสียงกึ่งหนึ่งคือ 238 เสียง โดยเสียงของรัฐบาลมีจำนวน 275 เสียง และจากที่มีการขับส.ส.ออกจากพรรค 21 คน เสียงของรัฐบาลก็จะคงเหลือ 254 เสียง ในเรื่องจำนวนตัวเลขยังทำให้การประชุมสภาดำเนินการต่อเนื่องได้ แต่ก็จะมีเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่วิปของแต่ละพรรคจะต้องปรึกษาหารือ และหามาตรการในการดำเนินการประชุมให้มีประสิทธิภาพ
ขณะเดียวกัน ยังเชื่อมั่นว่าเพื่อนส.ส.ที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง คงจะต้องร่วมกันคำนึงถึงการทำงานของสภาให้เดินหน้าต่อไปได้ ไม่เช่นนั้นก็จะถูกกล่าวหาว่านักการเมืองทำเพื่อประโยชน์ของตนเอง
ทั้งนี้ การดำเนินการพิจารณากฎหมายสำคัญหรืออภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 152 สามารถดำเนินการได้ปกติ เพราะเป็นการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ เมื่อวานนี้ (19 ม.ค.) จะเห็นได้ว่าเมื่อมีกฎหมายสำคัญก็สามารถผ่านความเห็นชอบของสภาได้ ดังนั้นขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกัน เพื่อให้การประชุมสภาเป็นไปได้ตามปกติต่อไป
"แต่ละพรรคต้องร่วมมือกันต่อไป สถานการณ์ทางการเมืองที่เสียงรัฐบาลปริ่มน้ำ หรือบางครั้งประธานรัฐสภาก็เป็นอีกฝ่ายหนึ่งกับฝ่ายรัฐบาลก็เคยมีมาแล้ว ดังนั้น อยู่ที่การประสานงานในการทำงานร่วมกัน เพื่อจะดำเนินการต่อไปให้มีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนให้สภาเกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชน" นายชินวรณ์ กล่าว
นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐา เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทย โดยการทำงานของพรรคยังเหมือนเดิม เพราะเมื่อมีประชุมสภาฯ ส.ส.ก็อยู่ครบ ส่วนพรรคอื่นก็เป็นเรื่องที่ พปชร.ต้องไปบริหารจัดการ
"การทำงานในสภาฯ ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยไม่มีปัญหา แต่การทำงานของรัฐบาล ก็เป็นเรื่องที่ต้องไปถามทางรัฐบาล" นายศุภชัย กล่าว
ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตถึงกรณีที่ประชุมสภาฯ เมื่อวานนี้ (19 ม.ค.) ฝ่ายรัฐบาลเป็นผู้ขอนับองค์ประชุมเอง ทั้งที่ปกติจะเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านนั้น นายศุภชัย กล่าวว่า ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร อาจจะเป็นกรณีพิเศษกว่าปกติ แต่เชื่อว่าสถานการณ์ทุกอย่างจะคลี่คลาย
"ผมไม่ทราบ มันอาจเป็นกรณีพิเศษมากกว่าวันปกติ ซึ่งก็เชื่อว่าไม่เป็นอะไร เดี๋ยวทุกอย่างก็คลี่คลายแล้ว การทำงานของสภาฯ ก็ต้องดำเนินการไปตามที่มันเป็นไป ส่วนฝ่ายบริหารก็ต้องไปจัดการกันเอง ผมว่าเมื่อวานนี้ก็ลงตัวแล้ว" นายศุภชัยกล่าว