นายเควิน รัดด์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของออสเตรเลีย กล่าวในระหว่างเดินทางเยือนอินโดนีเซียเป็นครั้งแรกหลังจากที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อเดือนที่แล้วว่า ความร่วมมือกับอินโดนีเซียถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งต่อออสเตรเลีย
นายรัดด์ ซึ่งได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดการปกครองแบบอนุรักษ์นิยมที่ยาวนาน 11 ปีของนายจอห์น โฮเวิร์ด กล่าวว่า เขาต้องการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างออสเตรเลียและอินโดนีเซีย
รัดด์กล่าวว่า เขาและปธน.ยุดโยโนได้ร่วมหารือเกี่ยวกับความสำคัญของความร่วมมือด้านความมั่นคง การปฎิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย และปัญหาความมั่นคงตามแนวชายแดน
ด้านนายยุดโยโนกล่าวว่า เขาคาดหวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศจะดีขึ้น ทั้งด้านการค้า การลงทุน การบังคับใช้กฎหมาย และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ
"ผมคาดหวังว่าจะได้ร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรีรัดด์ เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ระหว่างกันในระยะยาว" นายยุดโยโน่กล่าว
"แน่นอนว่าอาจมีปัญหาเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของการเป็นพันธมิตรกัน แต่ด้วยจิตวิญญาณและการเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน ผมเชื่อว่าเราทั้งสองจะสามารถฝันฝ่าอุปสรรคเหล่านั้นไปได้" เขากล่าว
นายรัดด์เดินทางไปเกาะบาหลีเพื่อเข้าร่วมการประชุมขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ โดยเขาได้รับการต้อนรับจากนายซูซิโล บัมบัง ยุดโยโน ประธานาธิบดีอินโดนีเซียที่ห้องรับรองของโรงแรมแห่งหนึ่ง
ทั้งนี้ มีชาวออสเตรเลียทั้งหมด 92 คนเสียชีวิตจากเหตุระเบิดสองครั้งบนเกาะบาหลีเมื่อปี 2545 และปี 2548 ซึ่งเหตุระเบิดครั้งที่สองเกิดขึ้นใกล้กับโรงแรมที่นายรัดด์เข้าพบกับนายยุดโยโน่ในครั้งนี้ ธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--