โดยขณะนี้นายวิโรจน์ และทีมงาน ได้เริ่มลงพื้นที่หาเสียงไปบ้างแล้ว และจะได้ทยอยเปิดนโยบายทีละด้านอย่างต่อเนื่องจนครบทุกด้าน
"สิ่งที่จะสามารถเอาชนะใจประชาชนชาวกทม.ได้ มี 2 เรื่อง คือ 1.ตัวผู้ว่าฯ กทม. จะต้องมีวิธีคิดและวิธีการทำงานที่ตรงใจคนกทม.ให้ได้มากที่สุด เชื่อมั่นว่านายวิโรจน์ และทีมงาน จะได้รับความไว้วางใจ และ 2.แนวนโยบายที่จะนำเสนอกับประชาชน ก็เป็นเรื่องที่สำคัญที่พรรคก้าวไกลได้วางไว้หมดแล้ว" นายชัยธวัช กล่าว
ส่วนการจะทำคะแนนเสียงให้ตีตื้นนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นั้น เห็นว่า ในช่วงเวลากว่า 3 เดือนก่อนจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในเดือน พ.ค.นั้น เป็นช่วงเวลาที่จะต้องทำงานหนัก เพื่อให้ประชาชนสัมผัสและเข้าถึงนโยบายของพรรคก้าวไกลได้โดยตรง ตลอดจนวิธีการทำงานและวิธีคิด เพราะต้องยอมรับว่าพรรคก้าวไกลเริ่มต้นช้ากว่าผู้อื่น ทั้งการเปิดตัว และหาเสียง
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าคนกรุงเทพฯ มีความคิดและความชอบที่แตกต่างกันหลายแบบ พร้อมมั่นใจว่า นายวิโรจน์ จะสามารถเข้าถึงประชาชนได้มากที่สุดในช่วง 3 เดือนนี้