พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงโอกาสที่จะไปนั่งเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ว่า อะไรที่ไม่จำเป็นตนเองก็ยังไม่พูด เป็นเรื่องที่ตนเองจะต้องตัดสินใจเอง ส่วนจะต้องมีการหารือร่วมกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร.หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธตอบคำถาม
ส่วนการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่ล่มบ่อยครั้ง จะกระทบการพิจารณากฎหมายที่จะเข้าสู่สภาฯ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า อยากให้แล้วเสร็จตามที่กำหนดไว้แล้ว ซึ่งขึ้นอยู่กับบรรดาส.ส. และสภา ที่ทุกคนจะต้องร่วมมือกันนำกฎหมายต่างๆ ไปพิจารณา ถ้าล่มอยู่แบบนี้ก็ไปไม่ได้ จะบอกว่าเป็นความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีคนเดียวก็ไม่ใช่ แต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกัน ทางฝ่ายค้านรัฐบาลทุกอย่างถ้าร่วมมือกันก็เดินไปได้หมด
"ทุกคนอยากจะเลือกตั้งหรือไม่ ถ้าอยากเลือกตั้งกฎหมายลูกก็ต้องทำให้เสร็จ ก็ต้องมีการประชุมสภา และสภาต้องไม่ล่ม กฎหมายใดที่เป็นกฎหมายสำคัญของรัฐบาลที่ออกไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนก็ต้องผ่านให้ได้ ถ้าทุกอย่างรวนไปหมด ก็แก้อะไรไม่ได้ ก็ต้องกลับไปที่เดิม กลับไปสู่ความวุ่นวาย มันมีบทเรียนมาแล้วทุกเรื่อง เหมือนสึนามิ ก่อนหน้าผมเข้ามาเกิดอะไรขึ้น และที่ผ่านมาอะไรดีขึ้นบ้าง อะไรที่ยังต้องแก้ไข ผมก็รับผิดชอบทั้งหมด ขอให้ช่วยกันหน่อยแล้วกัน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ขณะที่สถานการณ์การเมืองที่ไม่สงบขณะนี้ จะเป็นการเตะถ่วงการทำงานหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่สามารถถ่วงตนเองได้ และถ้าหากมีการดึงตนเองไว้ก็จะต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้นเป็น 2-3 เท่า และตนไม่นำเรื่องการเมืองมาเป็นภาระ ที่ตนเองจะต้องมานั่งสู้ เพราะถือเป็นเรื่องเสียเวลา และเรื่องการเมืองมีคนทำหน้าที่อยู่แล้ว หน้าที่ของตนคือบริหารบ้านเมืองให้ดีที่สุด นั่นคือเจตนารมย์อันมุ่งมั่นของตน อะไรที่ทำให้เป็นปัญหาตนเองก็ไม่รับ
พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้เป็นศัตรูกับใครทั้งสิ้น และต่างคนก็มีบทบาทหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบของตนเอง ไม่ว่าจะเป็น หน้าที่ในสภา หน้าที่ฝ่ายกฎหมาย แต่หากทุกอย่างดึงมาเรื่องการเมืองทั้งหมดจะเกิดอะไรขึ้น และถ้าเป็นแบบนี้ประเทศชาติจะดีขึ้นหรือไม่
นายกรัฐมนตรีตั้งใจจะเดินหน้าในสมัยที่ 3 หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าขึ้นอยู่กับสถานการณ์วันหน้า ขออย่ามาถามดักหน้าแบบนี้ เพราะขณะนี้อยู่ทำหน้าที่ตามวาระที่มี วันหน้าก็เป็นเรื่องของวันหน้า ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีไปตลอด เพราะไม่ได้มุ่งหวังอำนาจ และยืนยันตลอดระยะเวลา 7-8 ปี ไม่เคยมีผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น
"ผมไม่จำเป็นและไม่ได้ต้องการสงวนจะต้องเป็นนายกรัฐมนตรีไปตลอดชาติหรือตลอดชีวิต ทำเท่าที่ทำได้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องมากังวลว่า ผมมจะอยากมีอำนาจต่อไป แล้วผมจะมีอำนาจเพื่ออะไร เพื่อผลประโยชน์อย่างนั้นหรือ ยืนยันไม่เคยมีผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้นที่อยู่มา 7-8 ปี " พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว