คณะรัฐมนตรีอนุมัติและเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการส่งเสริมความร่วมมือด้านน้ำมันและก๊าซธรรมชาติระหว่างรัฐบาลบาห์เรนและไทย (Memorandum of Understanding between the Government of the Kingdom of Bahrain and the Government of the Kingdom of Thailand on Enhancement of Mutual Cooperation in the Field of Oil and Gas) ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
พร้อมทั้งอนุมัติให้กระทรวงพลังงานร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ สามารถพิจารณาปรับปรุงถ้อยคำในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญของความร่วมมือได้ตามความเหมาะสมที่จะมีการลงนามกับบาห์เรน เพื่อให้สามารถบังเกิดผลเป็นรูปธรรมในการส่งเสริมความร่วมมือด้านน้ำมันและก๊าซธรรมชาติระหว่างรัฐบาลบาห์เรนและไทยในระหว่างการเดินทางไปเยือนบาห์เรนของนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 10-12 ธันวาคม 2550
"การเริ่มต้นมีผลบังคับใช้และวันสิ้นสุด บันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าว จะมีผลบังคับใช้นับตั้งแต่วันลงนามเป็นระยะเวลา 3 ปี ทั้งนี้ การต่ออายุแต่ละครั้งจะต้องแจ้งอีกฝ่ายให้ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างน้อย 3 เดือน ก่อนวันที่สิ้นสุดของบันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าว" เอกสารระบุ
นายไชยา ยิ้มวิไล โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการส่งเสริมความร่วมมือด้านน้ำมันและก๊าซธรรมชาติระหว่างรัฐบาลไทยกับบาห์เรนนั้น เป็นการกระชับความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือด้านน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมีผลบังคับใช้นับตั้งแต่ลงนามเป็นเวลา 3 ปี
นอกจากนี้คณะรัฐมนตรีบาห์เรนได้ให้ความเห็นชอบบมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) หรือ ปตท.สผ. สามารถเข้าไปดำเนินการในบาห์เรนได้ แต่ต้องรอความเห็นชอบจากรัฐสภาบาห์เรนก่อน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความร่วมมือด้านพลังงานในอนาคตต่อไป
--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--