นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ แกนนำและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวถึงกรณีสภาล่มว่า เป็นช่วงเวลาที่ระบบรัฐสภาทำงานไม่เต็มที่อย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งรู้สึกเป็นห่วงเพราะผลเสียนั้นตกอยู่กับพี่น้องประชาชน เพราะระบบรัฐสภาไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้ แม้กระทั่งการพิจารณากฎหมายซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ทางรัฐสภาต้องดำเนินการแต่กลับดำเนินการไม่ได้ ต้องทิ้งค้างบนปัญหาที่รุมเร้าบีบคั้น ซึ่งไม่ควรปล่อยให้เกิดปัญหาแบบล้มลุกคลุกคลานต่อไป แต่ไม่ขอออกความเห็นว่าเป็นความผิดของใคร
ส่วนตัวมองว่าถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ควรต้องคืนอำนาจให้ประชาชน เพราะหากดึงไว้ต่อไปพี่น้องประชาชนจะเสียโอกาส เพราะสภาที่มีอยู่แต่ไม่สามารถดำเนินการขับเคลื่อนได้นั้น ทำให้พี่น้องประชาชนไม่ได้รับโอกาสที่ดีกับการมีรัฐสภา ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้มีอำนาจต้องพิจารณาถึงพี่น้องประชาชนและอาจจะต้องตัดสินใจโดยคิดถึงพี่น้องประชาชนมากกว่าพวกเขาหรือพวกเรา
"ผมคิดว่ารัฐบาลคงคิดอยู่ว่าจะยุบหรือไม่ยุบดี ตรงนั้นผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ท่านต้องคิดว่าถ้าคิดบนผลประโยชน์พี่น้องประชาชน ควรจะทำอย่างไร ผมคงไม่สามารถไปชี้นำได้ ถ้าคิดว่าต้องเป็นแบบนี้ไปอีก 5 เดือน 6 เดือนก็เท่ากับประเทศอยู่บนความบอบช้ำที่ต้องแก้ปัญหานั้น เราได้สะสมปัญหาใหม่เพิ่มขึ้น อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจ แต่ส่วนตัวขอให้มองที่ประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นหัวใจสำคัญ"นายสนธิรัตน์ กล่าว