พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยืนยันว่า ภายในพรรคพลังประชารัฐไม่มีปัญหา ทุกคนในพรรคยังรักกันเหนียวแน่นเหมือนเดิม และพรรคพปชร.ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ โดยตนยังเป็นหัวหน้า พปชร.ต่อไป
"เรื่องภายในพรรคไม่ได้มีปัญหาอะไร สบายใจ ซึ่งก็บอกไปแล้วทุกครั้ง เพียงมีแต่สื่อไปเขียนกันเอง และไม่เห็นว่าพรรคจะแตกได้อย่างไร นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง รักษาการเลขาฯ พรรค, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม รองหัวหน้าพรรค ยังอยู่กันหลายคน อยู่กันทุกคน ซึ่งทุกคนยังรักและเหนียวแน่นกันเหมือนเดิม"
พร้อมตั้งเป้าได้ส.ส. 150 ที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งหน้า ส่วนจะมีใครบ้างนั้น ยังไม่ขอเปิดเผย และยังเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพราะอยู่ด้วยกันมาตลอด 50 ปีแล้ว
พล.อ.ประวิตร ยังได้ปฎิเสธกระแสข่าวจะไปนั่งเก้าอี้ รมว.มหาดไทยแทน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา โดยระบุว่า "ผมจะไปอยู่ จะไปแย่งน้องทำไม"
นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ยังไม่ได้พูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ในเรื่องการทำงานการเมือง หลังลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ แต่เคยพูดคุยกันไว้ว่าออกไปแล้วจะต้องสนับสนุนรัฐบาลชัดเจน
ส่วนกรณีที่รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยไม่เข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ เพราะไม่เห็นด้วยกับการขยายอายุสัญญาสัมปทานโครงรถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า โครงการนี้ยังไม่ได้พิจารณา เราจะต้องพิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อไป ยังไม่ได้ตกลงใจว่าจะเอาอย่างไร เพราะถ้าไม่พิจารณาก่อนจะผิดมาตรา 157
ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการพรรคพปชร. กล่าวถึงมติการประชุมพรรคเมื่อวานนี้ ที่ให้ตนรักษาการผู้อำนวยการพรรคว่า พล.อ.ประวิตร ให้ความไว้วางใจมาทำหน้าที่ในตำแหน่งนี้ ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่สำคัญต้องมาดูเรื่องการแบ่งเขต 400 เขต และพิจารณาเรื่องผู้สมัครด้วย
"หัวหน้าพรรคมีความตั้งใจให้พรรคพลังประชารัฐเติบโตไปในทิศทางที่มากขึ้น ครั้งหน้า (เลือกตั้ง) มีการตั้งเป้าไว้ 140-150 เขต ตามที่หัวหน้าพรรคได้ดำริไว้" นายสุชาติ กล่าว
สำหรับการลาออกของสมาชิกพรรคบางส่วนนั้น นายสุชาติ ระบุว่า ถือเป็นเพียงส่วนเดียวเท่านั้น ซึ่งในทางการเมืองมีสมาชิกเข้า-ออกพรรคอยู่แล้ว ส่วน ส.ส.เขตที่ออกไปก็มีไม่กี่คน นอกนั้นเป็นบัญชีรายชื่อ ทั้งนี้ การทำงานในส่วนของ ผอ.พรรค จะทำงานประสานกับนายสันติ พร้อมพัฒน์ รักษาการเลขาธิการพรรค เป็นการช่วยกันทำงาน ส่วนกรรมการบริหารชุดใหม่ จะประชุมกรรมการบริหารพรรคในช่วงเดือนเมษายนนี้
นายสุชาติ ยืนยันว่า ในที่ประชุมพรรคพลังประชารัฐเมื่อวานนี้ไม่ได้มีการหารือเรื่องการปรับ ครม. เป็นเพียงแจ้งผลการทำงานในฐานะรัฐมนตรีให้ ส.ส.ในพรรคได้รับทราบ และไม่ได้พูดถึงมติพรรคที่ได้มีการขับส.ส. 21 คนออกจากพรรค ซึ่งทุกคนยังถือว่าเป็นเพื่อนกัน งานทางการเมือง แม้อยู่คนละพรรคก็ยังถือเป็นเพื่อนกันได้
นายสุชาติ ย้ำว่า ยังคงเดินหน้าสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีกสมัยแน่นอน เนื่องจากเหตุผลที่ตนมาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐก็เพราะเรื่องนี้