พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 โดยระบุถึงความล้มเหลวของการปฎิรูปประเทศการเมืองของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า การปฎิรูปการเมืองที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติไม่มีความคืบหน้า รัฐขาดความจริงใจในการปฎิรูปการเมือง และการเลือกตั้งย้อนไปสู่ระบบอุปถัมภ์เป็นหลัก โดยยกตัวอย่างการทุจริตการเลือกตั้งซ่อม จ.ลำปาง, สมุทรปราการ, และนครศรีธรรมราช
ก่อนหน้านี้แผนการปฎิรูปการเมืองเรื่องการเลือกตั้งมีกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ดูแล แต่ต่อมาเมื่อมีการเลือกตั้งท้องถิ่นก็มีสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาทำหน้าที่รับผิดชอบเรื่องการเลือกตั้งแทน
ในการเลือกตั้งที่จังหวัดลำปาง ตนได้เดินหาเสียงทุกวัน และมีชาวบ้านมาร้องเรียนว่าหมายเลข 1 หรือผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐซื้อเสียง ซึ่งตนก็ไม่มีเวลาตรวจสอบ จึงได้แนะนำชาวบ้านให้ถ่ายคลิปเป็นหลักฐานไว้ ซึ่งชาวบ้านก็สามารถถ่ายคลิปการซื้อเสียงขอให้เลือกเบอร์ 1 ได้ โดยเป็นการซื้อเสียงประชาชนจำนวน 300 บาท นอกจากนี้ยังพบการใช้สิทธิแทนผู้ที่ไม่อยู่ในพื้นที่ด้วย
สำหรับการเลือกตั้งในจังหวัดสมุทรปราการ ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ หมายเลข 4 ทั้งองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และเทศบาล มีการแจกเงินประชาชนคนละ 500 บาท ซึ่งมีหลักฐาน เป็นคลิปเสียง ส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ก็มีการซื้อเสียงของทั้งพรรคประชาธิปัตย์เบอร์ 3 และพรรคพลังประชารัฐเบอร์ 4 โดยแจกเงินประชาชนจำนวน 500 บาท โดยมีหลักฐานเป็นเสียงสนทนาของผู้ถูกซื้อเสียง
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ได้ส่งคำร้องและหลักฐานสำหรับการซื้อเสียงของทั้ง 3 จังหวัดให้กกต.ทั้งหมดครบถ้วน ในส่วนของจังหวัดลำปาง กกต.สรุปวินิจฉัยว่าคลิปซื้อเสียงที่ส่งไปมีมูลเรื่องเดียวเท่านั้น เรื่องอื่นไม่มี และได้เสนอให้ศาลฎีกาให้ใบเหลือง ซึ่งหลักฐานอื่นๆ ที่ตนส่งให้กกต. นั้นไม่มีการนำมาวินิจฉัยเลย เชื่อว่าถ้าเป็นพรรคอื่นคงได้ใบแดงไปแล้ว
"อย่างไรก็ดี ที่นำเสนอเรื่องข้างต้นเพื่อแสดงให้เห็นว่าการสืบสวนของกกต. สู้ตำรวจไม่ได้ ทำไมไม่ใช้ตำรวจ แต่ตั้งหน่วยงานขึ้นมาใหม่ ฝากถามท่านประยุทธ์ว่าที่เป็นใหญ่ทุกวันนี้โกงเขามาทั้งหมดใช่ไหม ตำแหน่งก็โกง เลือกตั้งก็โกง เอารัดเอาเปรียบมาทั้งชีวิตไม่รู้จักพอหรือ หลักฐานก็มีอยู่ เมื่อโกงเองแล้วจะสอนให้คนอื่นไม่โกงได้อย่างไร ดัชนีคอร์รัปชั่นปีนี้ลงมาอยู่ที่ 110 แล้ว" พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อนายกรัฐมนตรีทำไม่ได้ จึงขอเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาเพื่อป้องกันการทุจริตในเบื้องต้น แก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญการเลือกตั้ง พ.ศ. 2561 ดังนี้
1. ยุบกกต. จังหวัด คงเหลือเฉพาะสำนักงาน กกต. เนื่องจากไม่มีคุณภาพ
2. ครู-อาจารย์ เป็นเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง
3. ตำรวจ-ทหาร เป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนจับกุม เนื่องจากมีความรู้ในการสอบสวน
4. สลับตำแหน่ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. ปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว
5. เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เป็นพนักงานสอบสวน
"นายกฯ เข้ามาอย่างไรท่านก็รู้อยู่แล้ว ทำงานมาปีนี้ปีที่ 8 แล้วร่างกายก็หมดสภาพแล้ว ...ความรู้ก็ไม่มี ความดีก็ไม่ปรากฎ ประเทศชาติถดถอย ประชาชนยากจน พรรคก็แตก ยุบสภาโอกาสที่จะกลับมาอีกคงไม่มี ลาออก เป็นสัญลักษณ์ของการพ่ายแพ้ที่ยอมไม่ได้ แนะนำถ้าทำไม่ได้ขอให้ถอยดีกว่า" พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ กล่าว