พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว. กล่าวในที่ประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่? ) พ.ศ?. จำนวน 6 ฉบับว่า จะไม่รับหลักการร่างพ.ร.บ.ที่เสนอโดยส.ส. ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล รวม 5 ฉบับ เนื่องจากมีเนื้อหาที่เกินเลยไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ แก้ปัญหาการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของพรรคการเมือง เพื่อให้การกระทำนั้นชอบ ขัดขวางการมีส่วนร่วมของสมาชิกที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ ขัดขวางการพัฒนาพรรคการเมือง ให้เป็นของประชาชน เป็นสถาบันทางการเมือง แต่จะรับหลักการเพียงร่างฯ ของครม.เพราะมีหลักการสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พ.ศ.2564
พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า ขอฝากข้อคิดไปยังส.ส.ว่า พรรคการเมืองเป็นองค์กรสำคัญในระบอบประชาธิปไตย รับมอบอำนาจจากประชาชนไปทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ และบริหารราชการแผ่นดิน แก้ไขปัญหาสังคมที่ซับซ้อน เพื่อประโยชน์สุขประเทศ ประชาชน จึงน่าคิดว่าการปฏิบัติของพรรคการเมือง ต้องการปฏิบัติแบบง่ายๆ ทั้งจัดตั้งพรรค จัดตั้งสาขา คัดเลือกผู้สมัครง่ายๆ ดังนั้นพรรคการเมืองจะเข้าไปรับผิดชอบแก้ไขปัญหาชาติที่ซับซ้อนได้อย่างไร
"พรรคการเมืองกล่าวอ้างว่า การส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งโดยให้สมาชิกพรรคร่วมคัดเลือกนั้นทำไม่ได้จริง เสียค่าใช้จ่าย ผมมองว่าคือการทำลายคุณค่า และระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นในฐานะผู้ร่วมยกร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองฉบับปัจจุบัน ต้องการสร้างพรรคการเมืองให้ประชาชนมีส่วนร่วมแท้จริง โดยเฉพาะการคัดเลือกผู้สมัคร จึงออกแบบให้มีรายได้ของตนเอง เพื่อพ้นจากการครอบงำของนายทุน มีทุนประเดิมจากผู้ริเริ่ม รวมถึงการกำหนดเงื่อนไขไม่ให้คนนอกพรรคถูกครอบงำ ผมยืนยันว่าเจตนาของการทำกฎหมายลูก ไม่ใช่มุ่งเพื่อทำลายพรรคการเมือง กรณีที่ส.ส.เสนอแก้ไขกฎหมาย อาจทำให้ย้อนไปสู่วิกฤตการเมืองอีกครั้ง โดยเฉพาะแก้ไขเกินเลยกว่ารัฐธรรมนูญ มาตรา 83 ที่มีคำถามว่าจะทำได้หรือไม่" พล.อ.สมเจตน์ กล่าว
นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. กล่าวว่า การปฏิรูปประเทศด้านการเมือง พบปัญหาการเมืองว่าด้วยพรรคการเมืองถูกนายทุนครอบงำ จึงมีข้อเสนอให้ใช้วิธีแก้ไขโดยการเลือกตั้งขั้นต้น หรือไพรมารีโหวต เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วม ดังนั้นจึงเป็นวิธีแก้ปัญหา ไม่ใช่ทำให้พรรคการเมืองทำงานลำบาก