นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี ในฐานะรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวขอบคุณสมาชิกรัฐสภาที่ช่วยกันผลักดันให้ ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ผ่านการพิจารณาในชั้นรับหลักการไปได้ด้วยดี
ซึ่งเป็นการแก้ไขให้สอดคล้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ทางพรรคประชาธิปัตย์ได้ผลักดันเป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้เป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้นจากปัจจุบัน ดังนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสำเร็จสมบูรณ์ได้ก็ต่อเมื่อการแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญได้ผ่านไปได้ด้วยความเรียบร้อยด้วย
โดยที่ประชุมรัฐสภาเสียงข้างมากรับร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง 4 ฉบับ โดย ร่างของ ครม.รับหลักการ 609 เสียง ต่อ 16 เสียง และงดออกเสียง 10 เสียง, ร่างของพรรคเพื่อไทยรับหลักการ 420 เสียง ต่อ 205 เสียง และงดออกเสียง 14 เสียง, ร่างของพรรคร่วมรัฐบาลรับหลักการ 598 เสียง ต่อ 26 เสียง และงดออกเสียง 12 เสียง และร่างของพรรคก้าวไกล รับหลักการ 418 เสียง ต่อ 202 เสียง และงดออกเสียง 15 เสียง
สำหรับร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 6 ฉบับ ที่ประชุมมีมติรับหลักการ 3 ฉบับ และไม่รับหลักการ 3 ฉบับ โดยร่างของ ครม.มีมติรับหลักการ 598 ต่อ 11 งดออกเสียง 14, ร่างของพรรคร่วมรัฐบาล มีมติรับหลักการ 578 ต่อ 19 งดออกเสียง 26 เสียง, ร่างของพรรคพลังประชารัฐ มีมติรับหลักการ 408 ต่อ 184 งดออกเสียง 28 ไม่ลงคะแนน 1 เสียง
ร่างของพรรคประชาชาติ มีมติไม่รับหลักการ 207 ต่อ 375 งดออกเสียง 37 เสียง, ร่างของพรรคเพื่อไทย มีมติไม่รับหลักการ 221 ต่อ 371 งดออกเสียง 30 ไม่ลงคะแนน 1 เสียง, ร่างของพรรคก้าวไกล มีมติไม่รับหลักการ 204 ต่อ 381 งดออกเสียง 34 ไม่ลงคะแนน 1 เสียง
"ร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 2 ฉบับนี้ มีความเห็นที่หลากหลาย เมื่อเข้าสู่ชั้นกรรมาธิการคงต้องทำงานหนัก และคิดว่าทางกรรมาธิการจะได้นำความเห็นของสมาชิกรัฐสภานำมาพิจารณาได้อย่างครบถ้วน เพื่อให้กฎหมายได้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งที่ทุกคนยอมรับ" รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว