นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรักษาการรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึง กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นัดรับประทานอาหารกับพรรคร่วมรัฐบาลวันนี้ เป็นเพราะพรรคพลังประชารัฐจะถูกลอยแพหรือไม่ว่า พรรคพลังประชารัฐ เป็นแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล จึงไม่มีใครมาลอยแพได้ แต่เรื่องนัดรับประทานอาหารและการพูดคุยกันนั้น ตนไม่ทราบรายละเอียด เป็นเรื่องของหัวหน้าพรรคและแกนนำ
อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวเห็นว่าเป็นเรื่องดีที่จะได้พูดคุยรับฟังปัญหา รวมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อให้รัฐบาลทำงานได้ราบรื่นในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ซึ่งในอดีตก็มีการพูดคุยกันตลอด ส่วนที่มีเพียงหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคนั้น คิดว่าเป็นเรื่องของการจำกัดจำนวนคน เพื่อปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19
ส่วนนอกจากจะเป็นการกระชับความสัมพันธ์แล้วจะถือเป็นการเช็คเสียงก่อนเปิดประชุมสภาฯ ซึ่งมีการวิเคราะห์กันว่าจะมีการยุบสภาหรือไม่นั้น นายชัยวุฒิ กล่าวว่า เป็นกระแสของคนที่คิดต่าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่พรรคร่วมรัฐบาลมีการพูดคุยกันตลอดอยู่แล้ว ดังนั้น จึงมีความมั่นใจว่ารัฐบาลจะอยู่ครบเทอม
"เรื่องยุบสภาคงไม่มี เป็นเพียงการคาดการณ์ของคนบางคน จากการพูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ก็ยืนยันว่าจะทำงานขับเคลื่อนและอยู่ครบเทอม" นายชัยวุฒิ กล่าว
ส่วนกรณีการสนับสนุนนายสกลธี ภัททิยกุล อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครนั้น นายชัยวุฒิ ระบุว่า พรรคพลังประชารัฐยังไม่มีมติในเรื่องนี้ แต่เชื่อว่าคงจะมีการหารือ เพราะกำลังจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในเร็วๆ นี้ ซึ่งกรุงเทพฯ ถือเป็นพื้นที่สำคัญของพรรคพลังประชารัฐ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ปฏิเสธที่จะตอบคำถามถึงกรณีที่ว่าการนัดรับประทานอาหารค่ำครั้งนี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ รวมทั้งยังปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย จะไปร่วมรับประทานอาหารค่ำในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา หัวหน้าพรรคฯ ได้ขอให้ตนไปเข้าร่วมแทน โดยมองว่าการรับประทานอาหารร่วมกันครั้งนี้เป็นสัญญาณที่ดีที่จะทำงานร่วมกันในการเตรียมพร้อมในทุกเรื่อง เพราะในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ได้รับประทานอาหารและพบปะพูดคุยกันมาช่วงระยะเวลานานพอสมควรแล้ว
"การทำความเข้าใจพบปะพูดคุยกัน ไม่ใช่แค่ในการประชุมคณะรัฐมนตรี การเชิญร่วมรับประทานอาหารกันครั้งนี้ ถือเป็นการดีในพูดคุยนอกรอบในการปรับความเข้าใจ หรือหากมีประเด็นอะไร ก็จะได้พูดคุยหารือกัน และถือเป็นการกระชับมิตรในระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน" นายวราวุธ กล่าว
พร้อมระบุว่า ยังมีความมั่นใจในการทำงานของรัฐบาล ซึ่งแน่นอนว่าปัญหาของประเทศ มีหลายประเด็นที่จะต้องแก้ไข และเชื่อว่านายกรัฐมนตรี ยังสามารถแก้ไขปัญหาได้
ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่าการนัดรับประทานอาหารร่วมกันครั้งนี้ เป็นเพราะว่ารัฐบาลตอนนี้ระส่ำระสายนั้น นายวราวุธ ระบุว่า มีการคาดการณ์ตั้งแต่ปีแรกว่ารัฐบาลจะระส่ำระสาย ซึ่งการรับประทานอาหารร่วมกันในวันนี้ หากจะเป็นการส่งสัญญาณก็คงเป็นการส่งสัญญาณในการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาล
"อยู่ในเรือลำเดียวกัน หากว่าเครื่องยนต์กลไกที่มีส่วนไหนเสีย หรือมีส่วนใดรั่ว ก็เป็นหน้าที่ของพวกเราที่จะช่วยกันปะผุ นำพารัฐนาวาลำนี้ไปให้ถึงฝั่ง" นายวราวุธ กล่าว พร้อมมั่นใจว่า รัฐนาวาของรัฐบาลจะไปถึงฝั่ง ไม่เกิดการยุบสภากลางคัน และท้ายที่สุดแล้วนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ที่เคาะเองว่าจะยุบหรือไม่ยุบสภา
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านออกแสดงความเห็นว่านายกรัฐมนตรีอาจจะยุบสภาหนีศึกอภิปรายนั้น นายวราวุธ เชื่อว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้คิดถึงประเด็นนั้น เพราะจากการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาล แต่ละพรรคการเมืองยืนยันที่จะสนับสนุนนายกรัฐมนตรี ยังไม่มีประเด็นเรื่องการยุบสภาแต่อย่างใด ส่วนการเช็คเสียงของรัฐบาล มีการพูดคุยกันทุกเช้าวันอังคารอยู่แล้วว่าการทำงานในคณะรัฐมนตรีทุกครั้งเป็นอย่างไร