พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดกิจกรรม "ครอบครัวเพื่อไทย : บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม" ที่ศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้านานาชาติ มลฑาทิพย์ ฮอลล์ จ.อุดรธานี โดยมีแกนนำพรรคเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง รวมถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม
น.ส.แพทองธาร ได้กล่าวขอบคุณหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ไว้วางใจให้เป็น "หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย" จากที่ตนเคยเป็นเพียงผู้เฝ้ามองในช่วงเวลาต่างๆ ของพรรค ทั้งตอนที่บิดา (นายทักษิณ ชินวัตร) ตั้งพรรคเพื่อไทย, ตอนที่บิดาถูกรัฐประหาร และตอนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกรัฐประหาร แม้ช่วงนั้นจะไม่ได้เข้ามาทำการเมือง แต่ก็ได้รับผลกระทบ
โดยเห็นว่าบ้านเพื่อไทยได้เติบโตฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ระหว่างทางมีคนตกหล่นหายไปบ้าง แต่ยังมีอีกหลายคนที่ยังอยู่ร่วมกัน ยังพร้อมต่อสู่ไปกับเรา และขอบคุณการสนับสนุนของประชาชน ที่ทำให้พรรคเพื่อไทยมีวันนี้ตลอด 23 ปี บนเส้นทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย เรามีประสบการณ์มากกว่าพรรคอื่น จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำให้รู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่พรรคเพื่อไทยจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ทันต่อความต้องการของประชาชนที่เปลี่ยนแปลงไป จะต้องทำให้พรรคเพื่อไทยเป็นเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเดิมให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน
"ไม่มีทางลืมประชาชนรากหญ้าที่สนับสนุนเรามาตั้งแต่ไทยรักไทย ตระหนักถึงความทุกข์ ความเดือดร้อนของพี่น้องเสมอมา เราจะต้องอยู่อย่างแข็งแกร่ง และอยู่รอด เพื่อเป็นความหวังอันเดียวให้ประชาชน โดยวางเป้าหมาย 2 เรื่อง คือการสร้างการมีส่วนร่วมการทำงานของคนทุกเจนเนอเรชั่น และจะต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ระบอบเผด็จการต้องหมดไป" นส.แพทองธาร กล่าว
พร้อมมองว่า การพูดตอนนี้อาจฟังว่าไกลตัว แต่ไม่ไกลเกินไปแน่นอน ต้องเตรียมพร้อมเมื่อถึงเวลา พรรคเพื่อไทยต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ และต้องเป็นแกนนำจะได้ผลักดันนโยบายได้ แต่ถ้าจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ต่อให้นโยบายดีแค่ไหน ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยนโยบายของเราจะเติมเงินในกระเป๋าให้ประชาชนแบบมีเกียรติ อำนาจรัฐเท่านั้นที่จะเป็นทางออก
การบรรลุเป้าหมายต้องการการสนับสนุนจากพี่น้อง ดังนั้นพรรคเพื่อไทยอยากให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นจึงเป็นที่มาของครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งการที่วันนี้พรรคเพื่อไทยทำกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่หัวใจเดิม ก็เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน
"เราอยากให้ประชาชนสมัครเข้ามาเยอะๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ มาร่วมเป็นครอบครัวเพื่อไทยด้วยกัน วันนี้เราต้องการสู้ศึกเลือกตั้งอีกครั้ง เมื่อถึงเวลา 14 ล้านเสียงจะเกิดอีกครั้งกับพรรคเพื่อไทย วันนี้เราจะอยู่เป็นครอบครัวจะสู้ต่อไปอย่างเข้มแข็ง เราจะไม่ทิ้งกัน" น.ส.แพทองธาร กล่าว
หลังจากการขึ้นกล่าวบนเวทีแล้ว น.ส.แพทองธาร ยังได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวในภายหลัง ถึงกรณีการเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยว่า ความตั้งใจที่มาเปิดตัวเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยนั้น เนื่องจากต้องการให้สมาชิกพรรคไทยรักไทยเดิม ได้กลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้ง เพื่อร่วมจิตวิญญาณเดิมที่เคยอยู่ร่วมกัน และเคยทำให้บ้านหลังเก่าของแข็งแรง ซึ่งประเด็นของตนมีเพียงเท่านี้
ส่วนความพร้อมในการรับตำแหน่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยนั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า จะต้องทำงานกันเป็นทีม การที่ตนเข้ามาทำงานในพรรคเพื่อไทยวันนี้ ไม่ได้อยู่ที่ตนเพียงคนเดียวแล้วจะได้เป็นแคนดิเดตนายกฯ แต่การทำงานทุกอย่างต้องอาศัยพรรค ความจริงแล้ววันนี้ทุกคนในพรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติ พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้พรรคมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล เพื่อที่จะได้ผลิตนโยบายดีๆ มาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ขจัดความฝืดเคืองด้านเศรษฐกิจให้กับประชาชน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ทำงานมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย ได้พิสูจน์ผลงานอยู่แล้วว่าสิ่งที่พรรคคิดและเสนอออกไปสู่ประชาชนนั้นสามารถทำให้เกิดขึ้นได้จริงได้ เพราะพรรคมีบุคลากรที่มีคุณภาพที่จะมาผลักดันนโยบายที่ดีให้กับประเทศ
"พูดได้เลยว่า หากพร้อมเมื่อไร ไม่ใช่แค่ตัวอิ๊งที่พร้อม แต่ทุกคนพร้อมที่จะแก้ปัญหาของประเทศชาติที่กำลังเผชิญอยู่ วันนี้เพื่อไทยพร้อมที่สุดแล้ว ส่วนแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยนั้นเคยตอบไปแล้ว ยุบสภาเมื่อไร ค่อยว่ากัน" น.ส.แพทองธาร กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ประกาศบนเวทีว่าพรรคเพื่อไทยจะต้องเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เพื่อทำให้เผด็จการหมดไป ซึ่งเหมือนเป็นการประกาศศึก และกังวลจะมีผลกระทบตามมาหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนคิดว่ามันเป็นความจริงที่ต้องนำระบอบประชาธิปไตยอย่างเต็มรูปแบบกลับคืนมา นี่คือสิ่งที่ถูกต้อง เพราะประเทศไทยควรเป็นประชาธิปไตยแบบ 100% และรัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นมาได้ก็ต้องมาจากการเลือกตั้ง โดยประชาชนต้องเป็นคนเลือกเท่านั้น ส่วนถ้าจะให้ประเมินเสียง ส.ส.ที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้คิด เพราะเป็นเรื่องในอนาคต แต่ส่วนตัวก็อยากให้ได้เสียง ส.ส.มากๆ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายทักษิณ พูดหลายครั้งว่าอยากกลับมาเมืองไทยนั้น ในฐานะบุตรสาว มีเป้าหมายเรื่องนี้อย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าว่า คุณพ่อเพียงแต่อยากกลับมาเลี้ยงหลาน ไม่ได้เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด
"เรื่องพ่อกลับบ้าน ไม่ใช่เป้าหมายหลัก วันนี้ปัญหาหลักของประเทศเราคือปากท้อง เศรษฐกิจ และปัญหาของประชาชน ไม่ใช่ปัญหาของครอบครัวอิ๊ง เราควรจะโฟกัสตรงนั้น แต่คุณพ่อ คุณแม่ และครอบครัวทุกคนเป็นกำลังใจที่ดีของอิ๊ง" น.ส.แพทองธาร กล่าว