นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการที่พรรคเพื่อไทย เตรียมวางตัว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ลูกสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มองว่าจะได้คะแนนเสียงมากหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าไปมองแค่ว่าเป็นลูกสาวนายทักษิณเท่านั้น แต่ต้องมองว่าเป็นคนรุ่นใหม่ มีความรู้ที่ดีครอบครัวที่ดีความตั้งใจจะมารับใช้ชาติบ้านเมือง และตั้งใจจะมาเป็นทางเลือกให้ประชาชน คนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดก็คือ ประชาชนจะได้มีทางเลือก ซึ่งทุกพรรคต้องแข่งขันขับเคลื่อนนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน แต่สุดท้ายคนที่ตัดสินใจคือประชาชน
โดยนายอนุทิน มองว่า ในอนาคต น.ส.แพทองธาร สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้
"ใครที่มีความตั้งใจทำให้ประเทศชาติบ้านเมือง ก็สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้หมด ส่วนตัวเห็น น.ส.แพทองธาร ตั้งแต่สมัยที่ตามคุณพ่อไปประชุมนานาชาติ ประชุมเอเปคเมื่อ 15-16 ปีที่แล้ว" นายอนุทิน ระบุ
ส่วนการร่วมงานทางการเมืองกันในอนาคต ระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคเพื่อไทยนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างจะจบที่ผลการเลือกตั้ง ต้องยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย เพราะประชาชนจะได้ประโยชน์ แต่หากผลการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ได้ไปถึง 250 ที่นั่ง ก็สามารถตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้เลย เอาไว้ให้เป็นเรื่องของอนาคต
"หากเพื่อไทยได้ถึง 250 เสียง เพื่อไทยก็จะเป็นคนกำหนด แต่ถ้าหากไม่ถึง 250 แล้วเหลืออีกกี่ที่นั่ง ซึ่งทุกอย่างต้องรอวันเลือกตั้ง สิ่งสำคัญที่สุดในวันนี้อย่าไปคิดว่าจะรวมกับใครรวมเมื่อไร ต้องคิดอยู่อย่างเดียวว่า จะมีนโยบายอะไรที่ออกมาแล้วประชาชนมั่นใจ และประชาชนเลือก และเวลาที่เหลืออยู่จากนี้ไปอีก 1 ปี จะทำให้ประชาชนเห็นและเชื่อมั่นได้หรือไม่ ว่ารัฐบาลนึกถึงประชาชนนึกถึงประโยชน์บ้านเมือง และอะไรเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและทุจริต ซึ่งพรรคภูมิใจไทยก็แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่เอาด้วย รวมถึงสิ่งที่ประชาชนหรือประเทศชาติเสียประโยชน์ เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว และโครงการโฮปเวลล์" นายอนุทิน กล่าว
สำหรับความบาดหมางระหว่างนายเนวิน ชิดชอบ กับนายทักษิณในอดีตนั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร ขัดแย้งกันได้ มีความเห็นไม่ตรงกันได้ เดินคนละแนวทางได้ แต่ในส่วนตัวจะไม่ทำร้ายหรือเกลียดกัน ความเห็นต่างกันเป็นสิ่งที่ดีในระบบประชาธิปไตย แต่ต้องไม่กลับไปบ้านแล้วไปหาวิธีแก้แค้น ซึ่งไม่ถูกต้อง และไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย เป็นเรื่องที่แย่กว่าเผด็จการ หากเอาความเกลียดชังส่วนตัวเป็นที่ตั้ง และมุ่งมั่นทำร้ายกัน อย่างนี้ใช้ไม่ได้
นายอนุทิน กล่าวถึงความพร้อมที่ฝ่ายค้านจะยื่นซักฟอกรัฐบาลในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขว่า โดยยืนยันว่า สามารถชี้แจงได้ เช่น ประเด็นโรคระบาด สถานการณ์โควิด-19 ต้องตอบให้เกิดความเข้าใจ ส่วนเรื่องทุจริตไม่มีอยู่แล้ว
ทั้งนี้ นายอนุทิน ไม่มองว่าฝ่ายค้านเสียมารยาท ที่เมื่อเปิดสมัยการประชุมก็ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจทันที แต่มองว่าอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้หรือไม่ ก็ถือว่า ทุกคนอยู่ในกติกาและกติกาถือเป็นสิ่งสำคัญ