"วันนี้จะลาออก ซึ่งได้เซ็นหนังสือส่งไปให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้ว...ที่ลาออกจะได้ไปลงสมัครแข่งขันเป็นผู้ว่าฯ ขอยืนยันว่าไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง แต่ต้องการเข้ามาสานต่องานที่ค้างอยู่ หรือทำสิ่งดีๆใหม่ๆ" พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว
สำหรับการทำงานในตำแหน่งผู้ว่าฯ ในช่วงที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยมีผลงานมากมาย ได้แก่ การปรับปรุงภูมิทัศน์คูคลองให้สวยงามน้ำใสสะอาด, การสร้างโรงพยาบาลเพิ่มเติมในพื้นที่เขตบางขุนเทียน, การแก้ปัญหาน้ำท่วมจุดสำคัญ เช่น แยกเกษตรฯ วงเวียนบางเขน, การสร้างวอเตอร์แบงก์ 4-5 จุด, โครงการก่อสร้างท่อระบายน้ำเพิ่มเติม ด้วยวิธีดันท่อลอดหรือ ไปป์แจ๊คกิ้ง (pipe jacking) , การขุดลอกคูคลอง, การเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะ ล้อ-ราง-เรือ โดยนำเรือไฟฟ้ามาให้บริการ
"ตั้งแต่มีโอกาสได้เข้ามารับหน้าที่ก็ตั้งใจที่จะทำให้กรุงเทพฯ ที่เป็นเมืองแห่งความหวังมีสภาพสวยงามเหมือนในอดีต...ผมเป็นนักปฏิบัติ นำนโยบายที่เขียนไว้อย่างสวยหรูเมื่อ 20-30 ปีก่อนมาทำ แต่ไม่ค่อยได้แถลงข่าวว่าทำอะไรไปบ้าง ประชาสัมพันธ์ไม่เก่ง เป็นนักปฏิบัติ ไม่ใช่นักพูด เรื่องที่กำลังหาเสียงกันอยู่ขณะนี้ผมทำเสร็จไปแล้วทั้งนั้น กรุงเทพฯมันเปลี่ยนไปเยอะแล้ว" พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวอีกว่า ตนเป็นนักปฏิบัติ เป็นนักประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และหากได้รับเลือกเข้ามาทำหน้าที่อีกครั้งจะเปิดรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย ทีมงานที่มาร่วมบริหารครึ่งหนึ่งจะเป็นคนหนุ่มสาวและคนพิการ ถึงแม้ตนเองจะจบนายร้อยตำรวจมาแต่ก็สามารถเลือกคนดีมีความสามารถเข้ามาช่วยทำงานได้
"ผมจะนำนโยบายที่ประกาศไว้มาสู่การปฏิบัติ แก้ไขปัญหาทุกเรื่องไปพร้อมๆ กัน" พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า การทำงานแก้ปัญหาทุกเรื่องมีความยากลำบากทั้งนั้น ซึ่งต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ผลงานที่ผ่านมามีความภูมิใจทุกเรื่องแต่ยังไม่สุด ยังเสียใจที่ทำไม่สมบูรณ์ ให้คะแนนผลงานตัวเองแค่ครึ่งเดียว เพราะยังทำให้ประชาชนไม่เต็มที่ จึงตัดสินใจลงสมัครอีกครั้ง
ทั้งนี้ พล.ต.อ.อัศวิน ได้ประกาศตัวเป็นแคนดิเดทผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เป็นคนที่ 8 จากก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวไปแล้ว 7 คน ได้แก่ นายสุชัชวีร์ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์, นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครในนามอิสระ, นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล, น.ส.รสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครในนามอิสระ, นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครในนามอิสระ, นายประยูร ครองยศ ผู้สมัครในนามพรรคไทยศรีวิไลย์ และน.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครในนามพรรคไทยสร้างไทย
"คนที่เปิดตัวมาแล้ว ทุกคนเป็นคนดีคนเก่ง เป็นเรื่องดีที่คนกรุงเทพฯ มีตัวเลือกหลากหลาย ชอบใครก็ไปเลือกคนนั้น แต่ถ้าตัดสินใจไม่ได้ก็หันมาเลือกอัศวิน กรุงเทพฯต้องไปต่อ ผมจะนำนโยบายไปสู่ปฏิบัติ ผมเป็นนักประสาน" พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว