นายสกลธี ภัททิยกุล ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในนามอิสระ แถลงข่าวเปิดตัวนโยบายในการหาเสียงภายใต้สโลแกน "กรุงเทพดีกว่านี้ได้" โดยหลังจากวันนี้จะทยอยเปิดนโยบายในแต่ละเรื่อง โดยลงลึกไปในรายละเอียดสัปดาห์ละเรื่อง
"ไม่ใช่สิ่งที่มีอยู่ซึ่งผู้ว่าฯ แต่ละคนได้ทำมาแล้วจะไม่ดี แต่มองว่าในอนาคตจะมีการบริหารจัดการให้ดีกว่าเดิม...ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ตั้งใจเต็มที่ ถ้าคนกรุงเทพฯ อยากเห็นคนทำงานที่มีพลังในการทำงาน และมีสไตล์การทำงานที่ไม่ได้นั่งอยู่ในห้อง แต่ลงไปลุยกับปัญหาก็ฝากผมไว้คนหนึ่ง" นายสกลธี กล่าว
สำหรับนโยบายในการทำงานประกอบด้วย 6 ด้าน คือ
1.การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อให้คนหันมาใช้บริการมากขึ้น ได้แก่ จัดรถโดยสารไฟฟ้ามาวิ่งบริการเพื่อขนคนเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้า, นำระบบ AI เข้ามาช่วยในการจัดการจราจรให้สัมพันธ์กับปริมาณรถเพื่อแก้ปัญหารถติด, นำเรือโดยสารไฟฟ้ามาให้บริการขนคนเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้าในเส้นทางใหม่เพิ่มเติม, สร้างรถไฟฟ้าเพิ่มเติม เช่น บางนา-สุวรรณภูมิ วัชรพล-ทองหล่อ, การบังคับใช้กฎหมาย เช่น จัดระเบียบซากรถที่จอดทิ้งกีดขวางทางจราจร
2.การพัฒนางานด้านสาธารณสุขให้มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น เช่น การยกระดับศูนย์สาธารณสุข 69 แห่งให้เป็นสมาร์ทคลินิก โดยนำระบบเทเลเมดิซีนมาใช้งาน สามารถขอรับคำปรึกษาทางโทรศัพท์ และจัดส่งยาให้ถึงบ้านได้ พร้อมทั้งเพิ่มจำนวนศูนย์สาธารณสุขให้เพียงพอกับจำนวนประชาชน, ยกระดับโรงพยาบาล 11 แห่ง ให้เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทาง จากปัจจุบันที่มีโรงพยาบาลบางขุนเทียนที่เป็นโรงพยาบาลสำหรับผู้สูงอายุเพียงแห่งเดียว, นำระบบโฮมมอนิเตอริ่งมาช่วยในการดูแลผู้สูงวัย เพื่อลดภาระให้กับลูกหลาน
3.การพัฒนางานด้านการศึกษา ยกระดับคุณภาพให้มีความเท่าเทียมกัน เพื่อให้ประชาชนทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงได้และวางใจที่จะส่งลูกหลานมาเรียน, เพิ่มหลักสูตรอย่างน้อย 2 ภาษา, เพิ่มหลักสูตรตามความถนัด, การจัดอาหารตามหลักโภชนาการ, การปรับทัศนคติของครูให้สอนเด็กรู้จักคิดแทนการท่องจำ เพื่อให้เด็กสามารถไปศึกษาเพิ่มเติมด้วยตัวเองได้
4.การพัฒนางานด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย ระบายน้ำ และผังเมือง ได้แก่ เพิ่มการติดตั้งกล้องวงจรให้เพียงพอเพื่อลดจุดบอด, การเพิ่มพื้นที่สีเขียว โดยมีมาตรการจูงใจภาคเอกชน, ปรับปรุงระบบดับเพลิงให้มีประสิทธิภาพ, เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้สูงอายุและคนพิการ, ปรับปรุงระบบระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมเพิ่มเติม, ปรับปรุงสวนสาธารณะให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานอย่างคุ้มค่า เช่น บึงหนองบอนที่สามารถทำเป็นศูนย์กีฬาทางน้ำได้, ปรับสภาพที่รกร้างว่างเปล่าให้เป็นสวนสาธารณะขนาดเล็กกระจายตามชุมชนอย่างทั่วถึง, สถานีดับเพลิงทางน้ำ เพื่อแก้ปัญหารถดับเพลิงไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุริมน้ำ, การสร้างศูนย์ควบคุมและบัญชาการที่สามารถตรวจสอบการเคลื่อนไหวในพื้นที่ทั้งหมด เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วขึ้น, เสาอัจฉริยะที่ติดตั้งสัญญาณไวไฟ เครื่องวัดระดับมลพิษ ติดตั้งกล้องวงจรปิด, จัดระเบียบหาบเร่ แผงลอย ห้ามรถจักรยานยนต์วิ่งบนทางเท้า
5.ระบบบริหารจัดการที่มีความโปร่งใส เช่น การขออนุญาตจะต้องมีกรอบเวลาที่ชัดเจน สามารถรับรู้ได้ว่ามีความคืบหน้าไปถึงไหน
และ 6.การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และท่องเที่ยว เพื่อสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนกรุงเทพฯ