นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. (ฉบับที่...) พ.ศ... กล่าวก่อนการประชุม กมธ. ซึ่งมีวาระลงมติตัดสินเบอร์ผู้สมัครส.ส. ว่า พรรคประชาธิปัตย์มีมติให้แก้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบเป็นหมายเลขเดียวกัน โดยมีจุดประสงค์เพื่อต้องการให้พรรคการเมืองมีความเข้มแข็ง และเพื่อช่วยให้ประชาชนเข้าใจในการเลือกได้ง่าย ขณะเดียวกันในการจัดการเลือกตั้งต้องทำให้เกิดบัตรเสียน้อยที่สุด ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะขัดกฎหมายนั้น กมธ.มีผู้เชี่ยวชาญและเขียนคำแก้ไขให้ถูกต้องตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญได้
นายสาธิต กล่าวว่า จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีประมาณ 50 ล้านคน รวมถึงผู้สูงอายุและผู้อยู่ในชนบท ซึ่งอาจมีความสับสนและไม่เข้าใจ ดังนั้นต้องออกแบบกฎหมายให้การเลือกตั้งตรงกับเจตนาของประชาชนให้มากที่สุด ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์เคยมีประสบการณ์ว่าถ้าแต่ละเขตเลือกตั้งผู้สมัครส.ส. กับหมายเลขพรรคคนละเบอร์กัน เวลาลงพื้นที่จะสร้างความสับสนให้ผู้เลือกและผู้รณรงค์หาเสียง เราพบว่าบางกรณี ส.ส.หาเสียงให้แต่ตัวเอง แต่ไม่ยอมหาเสียงให้พรรค ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาพรรคการเมืองอ่อนแอ
ทั้งนี้ หลักการในการแก้รัฐธรรมนูญมี 2 อย่าง คือ 1.ทำให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง และ 2.ให้ความสะดวกกับประชาชน ถ้าแก้กฎหมายเพื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งและเป็นประโยชน์กับอีกฝ่ายหนึ่ง กติกาจะไม่ได้รับความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือ ดังนั้น หากใครแพ้ ใครชนะ ก็จะหยิบยกประเด็นดังกล่าวทำให้การเลือกตั้งมีปัญหา กลายเป็นความขัดแย้งในบ้านเมือง
"พรรคการเมืองใดจะมา เป็นเพียงสมมติฐานทั้งสิ้น มันเป็นพื้นฐานและต้นทุนที่มีอยู่ แต่สุดท้ายวันเลือกตั้งก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าแก้กฎหมายเพื่อตัวเองหรือเพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ก็อย่าหวังว่าจะได้รับความเชื่อมั่นกับประชาชน" นายสาธิต กล่าว
สำหรับการทำหน้าที่ประธานการประชุมวันนี้ นายสาธิต กล่าวว่า จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลตัวเลขสถิติบัตรเสียในการเลือกตั้งแต่ละครั้งที่ผ่านมาที่มีกติกาที่แตกต่างกัน เพื่อนำมาเปรียบเทียบกัน พิจารณาให้ครบถ้วน และเคารพความเห็นของแต่ละคนเพราะเป็นเอกสิทธิ์