ศาลฎีกา พิพากษาคดีที่น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ รุกพื้นที่ป่าสงวนใน จ.ราชบุรี ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยศาลฎีกามีคำพิพากษาว่าน.ส.ปารีณา ไม่มีคุณสมบัติครอบครองที่ดิน สปก. ทำให้เสื่อมเสียแก่การเป็น ส.ส. จึงให้พ้นจากหน้าที่ส.ส. และตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี รวมทั้งไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ
อนึ่ง คณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีมติชี้มูลความผิดว่า น.ส.ปารีณา ยึดถือ ครอบครอง และใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐโดยมิชอบ เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีเป็นส.ส.กระทำการอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม อันถือว่ามีลักษณะร้ายแรง และกรณีเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง อันถือว่ามีลักษณะร้ายแรงตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 11 ข้อ 17 ประกอบ ข้อ 27 วรรคสอง
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีดังกล่าวจะเป็นบรรทัดฐานพิจารณาเกี่ยวกับคดีจริยธรรมร้ายแรงต่อไปในอนาคต เพราะว่าศาลตัดสินไปตามกฏหมาย ฉะนั้นถ้าหากว่ามีคดีที่คล้ายคลึงกันเกิดขึ้น มีโอกาสจะรับโทษอย่างเดียวกัน
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการประหารชีวิตทางการเมืองที่มีความรุนแรง นายวิษณุ ไม่ขอแสดงความคิดเห็น ส่วนหากจะแก้ไขเรื่องโทษตลอดชีวิตจะต้องแก้รัฐธรรมนูญใช่หรือไม่นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ใช่ ต้องไปว่ากันในอนาคตทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย
นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีศาลฎีกามีคำสั่งให้ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง มีกำหนดเวลาไม่เกิน 10 ปีนั้น น.ส.ปารีณา ไม่ต้องจ่ายเงินคืนสภาฯ เนื่องจากสภาฯ ไม่ได้จ่ายเงินเดือนและเงินอื่นๆ นับตั้งแต่ศาลมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 25 มี.ค. 64 แล้ว ซึ่งถือว่าได้ปฏิบัติตามคำสั่งของศาล