นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ของรัฐสภา กล่าวถึงกรณีที่ นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ใช้สิทธิยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบนั้นว่า ไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของ กมธ.ฯ ที่ต้องชะลอหรือยุติการทำงาน เป็นการต่อสู้ตามความเชื่อของ นพ.ระวี เนื่องจากการทำงานของ กมธ.ฯ ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับที่กำหนดให้รัฐสภาต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน
อย่างไรก็ดีในประเด็นการแก้ไขเรื่องบัตรเลือกตั้งจาก 1 ใบ เป็น 2 ใบ รวมถึงแก้ไขจำนวนสมาชิกสภาฯ จาก 500 คน แบ่งเป็น ส.ส.แบบเขต 350 เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 150 คน เป็นสมาชิกสภาฯ 500 คน แบ่งเป็น ส.ส.เขต 400 เขต และส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คนนั้นมีเหตุผลที่ชัดเจนตั้งแต่การแสนอแก้ไขแล้ว เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้เจตจำนงเลือกตั้งสอดคล้องกับความเป็นจริง ส่วน การแก้ไขให้มี ส.ส.จำนวน 400 เขตเพื่อให้ดูแลแก้ปัญหาประชาชนได้ใกล้ชิดมากขึ้น
นอกจากนั้น กมธ.ฯ เตรียมเร่งรัดการทำงาน โดยหลังเทศกาลสงกรานต์ช่วงประมาณวันที่ 20- 21 เม.ย.65 จะประชุมเต็มวันโดยมีวาระพิจารณาสำคัญ ทั้งเรื่องไพรมารีโหวต และการคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่ง กมธ.ฯ กำหนดกรอบว่าต้องทำงานให้แล้วเสร็จก่อนเปิดสมัยประชุมสภาฯ ช่วงปลายเดือน พ.ค.65
ก่อนหน้านี้ นพ.ระวี เคยจะใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 (9) ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมผ่านวาระสาม แต่ไม่สามารถรวบรวมชื่อสมาชิกสมาชิกรัฐสภาได้ตามเกณฑ์คือ 1 ใน 10 ต่อมา นพ.ระวี จึงใช้สิทธิยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินและศาลรัฐธรรมนูญ
"ผมฐานะอดีตเลขานุการ กมธ.แก้ไขรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าการทำงานแก้ไขรัฐธรรมนูญทำถูกต้องและทุกฝ่ายเข้าใจ ในการประชุมของ กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญนั้นไม่เคยมีใครยกประเด็นของ นพ.ระวี มาพิจารณา เพราะเป็นเรื่องภายนอก กมธ.ฯ ไม่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกัน และไม่มีเหตุผลที่ทำให้ กมธ.พิจารณากฎหมายลูกต้องหยุดลง เว้นแต่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสิน หากตัดสินว่าทำไม่ได้ การทำงานของ กมธ.ที่ผ่านมาจะถือว่าโมฆะ ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าไม่เป็นเช่นนั้นแน่นอน" นายนิกร กล่าว