นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนนี้ขอยุติเรื่องการตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เคยเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคฯ ไว้ก่อน เนื่องจากตนไม่ได้มีตำแหน่งในพรรค และเป็นเพียงผู้ร่วมก่อตั้งเท่านั้น จึงจะขอใช้เวลาช่วงนี้เคลียร์ตัวเองให้บริสุทธิ์ก่อน ถ้าพิสูจน์ตัวเองว่าบริสุทธิ์ก็พร้อมจะกลับมาทำงานการเมือง และเดินหน้าทำพรรครวมไทยสร้างชาติต่อไป หากไม่มีใครทำ
"แม้จะอยู่ข้างนอกการเมือง ไม่มีตำแหน่งทางการเมือง ก็จะยังทำหน้าที่ตอบโต้แทนนายกฯ ต่อไป เพราะผมรักนายกฯ และยืนยันจะสนับสนุนให้เป็นนายกฯ ต่ออีกสมัย" นายเสกสกล กล่าว
นายเสกสกล กล่าวด้วยว่า ได้เข้าพบ พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่อกราบลา และยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย.นี้ เป็นต้นไป สืบเนื่องจากมีคลิปหลุดการพูดคุยกับนางจุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมืองประจำสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เรื่องโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดข้อครหากับนายกรัฐมนตรีว่าใช้อำนาจหน้าที่ในการปกป้องตนเอง และตนพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
นายเสกสกล กล่าวว่า ตนเห็นชัดถึงความตั้งใจ มุ่งมั่นทำงานด้วยความทุ่มเท และเสียสละของนายกรัฐมนตรี จึงได้ปวารณาตัวอาสาเข้ามาเป็นฟันเฟืองเล็กๆ คนหนึ่งในรัฐบาล ช่วยแบ่งเบาภาระของนายกรัฐมนตรีเท่าที่จะทำได้ตามกำลังความสามารถ และได้ทำงานอย่างเต็มที่มาตลอดเกือบ 3 ปี แต่เมื่อปรากฎเป็นข่าวที่อาจกระทบต่อภาพลักษณ์ และความน่าเชื่อถือของทีมงานนายกรัฐมนตรี ก็ขอแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งการลาออกจากตำแหน่งในครั้งนี้ ก็เพื่อไปพิสูจน์ความจริงตามกระบวนการยุติธรรมให้ปรากฎข้อเท็จจริง โดยไม่ต้องอาศัยตำแหน่งของตนเอง รามทั้งความสัมพันธ์กับผู้บังคับบัญชามาช่วยปกป้องตนเองให้พ้นผิด ซึ่งอาจจะถูกครหาว่า ใช้อำนาจหน้าที่เพื่อปกป้องตนเองได้
"ผมคิดว่าไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล ผมไม่ประสงค์จะเป็นฟันเฟืองที่ชำรุด ที่ทำให้เครื่องยนต์กลไกในการขับเคลื่อนของรัฐบาลต้องมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยสักแค่ไหนก็ตาม แม้จะยังไม่ได้พิสูจน์ข้อเท็จจริง ก็ควรแสดงความรับผิดชอบ" นายเสกสกล กล่าว
นายเสกสกล ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีไม่มีการปลดหรือบีบบังคับให้ลาออก แต่เป็นความประสงค์ของตนในการลาออกครั้งนี้ เพื่อพิสูจน์ความจริงกับกระบวนการยุติธรรม ตลอด 30 ปี และยืนยันว่าไม่เคยใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการทุจริตประพฤติมิชอบต่อประเทศชาติและประชาชน และไม่เคยมีผลประโยชน์แอบแฝง จึงไม่อยากให้คนดีๆ อย่างนายกรัฐมนตรีต้องมาด่างพร้อยเพราะตนเอง
ส่วนภารกิจการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลไม่เกิน 80 บาท ได้ดำเนินการตามหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่แล้ว และส่วนตัวมั่นใจว่าหากสลากกินแบ่งรัฐบาลดำเนินตามแนวทางของอนุกรรมการที่ตนเองเป็นประธาน จะสามารถแก้ไขปัญหาราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาได้อย่างแน่นอน ซึ่งถือว่าสิ้นสุดการทำงานของตนแล้ว จึงได้ลาออกจากทุกตำแหน่งในการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อมิให้เกิดข้อครหาเกี่ยวกับผลประโยชน์ใด ๆ ในโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาลทั้งสิ้น
ส่วนการดำเนินคดีได้แจ้งความไว้ที่ สน.ดุสิต เพื่อนำทุกคนที่เกี่ยวข้องในการอัดคลิปเสียงมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด และในวันที่ 19 เม.ย.นี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกหมายเรียกบุคคลที่ชื่อ "กิ๊ก" ที่นางจุรีพร ได้อ้างถึงมาสอบสวนสอบปากคำ ใครที่ไม่ประสงค์ดีหวังบ่อนทำลายชื่อเสียง จะขอใช้สิทธิ์ส่วนตัวดำเนินคดีตามกฏหมาย เพื่อไม่ให้ทำกับคนอื่นอีก