นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรมที่คืนความเป็นธรรมให้นายสุรพล เกียรติไชยากร อดีต ส.ส. 8 สมัยของเชียงใหม่ พร้อมมองว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนอกจากจะเกิดความเสียหายให้นายสุรพลแล้ว ยังส่งผลเสียหายกับพรรคเพื่อไทยที่ต้องเสียที่นั่ง ส.ส.ไป 1 คน ซึ่งส่งผลเสียหายอย่างมากในการรวบรวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาล แม้พรรคจะได้รับความไว้วางใจเป็นอันดับ 1 แต่ด้วยกลไกของรัฐธรรมนูญที่ทำให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ทำให้พรรคเพื่อไทยขาดโอกาสรับใช้ประชาชน
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ต้องโทษบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ที่ให้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ใช้เพียงหลักการพิจารณาเพียงแค่มี "หลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า" ก็พิจารณาให้ใบส้ม และตัดสิทธิการเลือกตั้ง ดังนั้นจึงเห็นควรเสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะกรณีการที่ให้อำนาจแก่ กกต.มากเกินไปในการตัดสิทธิ เพราะมองว่าควรเป็นอำนาจของศาลมากกว่า
"เชื่อว่า กกต. คงไม่มีเจตนาทำร้ายใคร และไม่ได้โทษ กกต. แต่โทษรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจ กกต. จึงเห็นควรเสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะยกเลิกการให้อำนาจ กกต. แบบล้นเกิน ในการแจกใบส้ม ทั้งที่ควรจะเป็นอำนาจของศาล" นพ.ชลน่าน กล่าว
ส่วนการดำเนินคดีอาญานั้น ขึ้นอยู่กับนายสุรพล แต่มองว่า คดียังไม่สิ้นสุด เชื่อว่า กกต.จะยื่นอุทธรณ์ และยังเชื่อว่าจะส่งผลกับการเลือกตั้งครั้งหน้า และในอนาคต กกต. จะต้องตระหนักอย่างรอบคอบ
ด้านนายสุรพล เกียรติไชยากร กล่าวว่า หลังจากศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง มีคำสั่งให้ กกต.ชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 64.1 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี ถือเป็นการกู้ศักดิ์ศรีความยุติธรรมกลับคืนมา และเชื่อว่าคำพิพากษาของศาล จะเป็นบทเรียนให้ กกต. และเป็นบรรทัดฐานของการเลือกตั้ง ส.ส. โดยหลังจากนี้จะขอปรึกษากับทีมกฎหมาย และทนายก่อนว่าจะดำเนินคดีอาญาหรือไม่