จากกรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาวิจารณ์พรรคเพื่อไทยก้าวไม่พ้นจากครอบครัวชินวัตรนั้น คนของพรรคเพื่อไทยต่างออกมาตอบโต้ผ่านสื่อโซเชียลมิเดีย โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า แปลกใจ เห็นข่าวอดีตนายกฯอภิสิทธิ์ แห่งประชาธิปัตย์ แสดงความห่วงใย เพื่อไทยว่าก้าวไม่ข้ามชินวัตร เกรงรัฐประหารจะเกิดซ้ำ อย่ากังวลเลย ห่วงและปัดกวาดพรรคท่านก่อนเถิด ปัญหารองหัวหน้าถูกกล่าวหาฉาวโฉ่ยังไม่จบ และยังเรื่องที่พรรคท่าน เป็นจำเลยชักนำเกิดรัฐประหารจนประเทศแย่ยังไม่เคลียร์
ขณะที่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ตอบโต้นายอภิสิทธิ์ ว่า "อยากจะPRตัวเอง เพื่อกลับมากอบกู้พรรคฯ จากเรื่องหื่น เรื่องฉาว ของรองหัวหน้าฯก็ทำไป อย่ามาใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือ เลยครับ"
ด้านนายวัน อยู่บำรุง ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กระบุว่า ก็เขียนในรัฐธรรมนูญไปเลยซิ่!!!ว่าห้าม"ตระกูลชินวัตร"ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง #อิหยังวะไปเคลียร์เรื่องฉาวโฉ่ในพรรคคุณก่อนเถอะ
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส. อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย เขียนข้อความ ระบุว่า "คุณอภิสิทธิ์ ก้าวไม่พ้นตัวเอง ก็กลับไป ปชป.ซิครับ พวกคุณเป็นสารตั้งต้น..ให้เขา มายึดอำนาจ ยังไม่รู้ตัวเองอีก สร้างให้แนวร่วมของคุณว่ากลัวการยึดอำนาจ แพ้เลือกตั้งมาตลอด แท้จริง..แลัว..พวกคุณคือเบื้องหลัง และเบื้องหน้า กปปส.มาตลอด"
ขณะที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง สมาชิกพรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ระบุถึงพรรคเพื่อไทยยังก้าวไม่พ้นตระกูลชินวัตร และหากชนะเลือกตั้งเป็นรัฐบาลอาจเจอรัฐประหารอีกว่า นายอภิสิทธิ์บอกให้ระวังว่าถ้าพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ อาจมีการรัฐประหารอีกนั้น หากมองว่าเป็นการพูดเพื่อไม่ให้คนเลือกพรรคใดพรรคหนึ่งก็พอเข้าใจได้ แต่ที่เป็นปัญหาก็คือการพูดอย่างนี้เป็นการทำลายหลักการประชาธิปไตยและสนับสนุนเผด็จการและการรัฐประหาร ในหลักการประชาธิปไตย มีด้วยหรือที่หากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมีพฤติกรรมหรือการกระทำที่เป็นลักษณะของการเอื้อประโยชน์ให้ครอบครัว ให้พวกพ้องหรือไปทำอะไรที่ฝืนกับหลักธรรมาภิบาล หลักกฎหมาย อย่างที่ยกขึ้นมาแล้ว จะเป็นความถูกต้องชอบธรรมในการทำรัฐประหาร
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ถ้ามีพฤติกรรมอย่างนั้นจริง ทำไมไม่ใช้กระบวนการบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่จัดการกับรัฐบาลนั้น ในระบบปัจจุบันจะบอกว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจริงๆ สามารถแทรกแซงศาลหรือองค์กรอิสระก็ไม่ได้อยู่แล้ว ทำไมจะใช้การรัฐประหารที่ทำลายหลักกฎหมายและธรรมาภิบาลยิ่งกว่าสิ่งใด
นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องการรัฐประหาร เห็นต่างจากนายอภิสิทธิ์มาตลอด ในบางเงื่อนไข การรัฐประหารเป็นเรื่องจำเป็นหรือกระทั่งเป็นเรื่องถูกต้อง แต่เห็นว่าไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร การทำรัฐประหารก็ไม่เป็นสิ่งที่ถูกต้องและไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายอย่างไร การรัฐประหารก็จะนำไปสู่สถานการณ์ที่เลวร้ายยิ่งกว่าเสมอ บนหลักการประชาธิปไตยจึงไม่มีข้ออ้างใดๆ ที่จะทำให้การรัฐประหารจะกลายเป็นสิ่งที่ชอบธรรมไปได้
"เคยรู้สึกเห็นใจคุณอภิสิทธิ์เมื่อคราวที่ต้องลาออกจากหัวหน้าพรรค และต่อมาต้องลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สืบเนื่องจากการที่พรรคประชาธิปัตย์ลงมติเข้าร่วมรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทั้ง ๆ ที่ในโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 คุณอภิสิทธิ์ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคอยู่ประกาศไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เข้าใจผิดไปว่าคุณอภิสิทธิ์เปลี่ยนใจนาทีสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งเป็นไม่เห็นด้วยกับการสืบทอดอำนาจเผด็จการ แต่ในที่สุดกาลเวลาก็พิสูจน์ว่าคุณอภิสิทธิ์กับแกนนำคนอื่น ๆ ก็เพียงแค่แบ่งบทกันเล่นในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วเท่านั้นเอง" นายจาตุรนต์ กล่าว
นายจาตุรนต์ กล่าวด้วยว่า โดยการเสนอความเห็นของนายอภิสิทธิ์ในครั้งล่าสุดนี้เป็นการยืนยันความคงเส้นคงวา ก่อนการรัฐประหารปี 2549 นายอภิสิทธิ์ร่วมอยู่กับการบอยคอตการเลือกตั้งที่ชักชวนให้กองทัพยึดอำนาจและเมื่อเกิดการรัฐประหารขึ้น ก็บอกว่าการรัฐประหารเป็นสิ่งจำเป็น ก่อนการรัฐประหารในปี 2557 เข้าร่วมขบวนการเป่านกหวีดของ กปปส. นำพรรคประชาธิปัตย์บอยคอตการเลือกตั้ง สร้างเงื่อนไขให้เกิดการรัฐประหาร และเมื่อเกิดการรัฐประหารก็เออออห่อหมกไปด้วยอย่างออกนอกหน้า เมื่อนึกย้อนหลังไปแล้ว คงต้องสรุปว่าการแสดงความเห็นครั้งหลังสุดที่ว่าหากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลาย อาจนำไปสู่การรัฐประหารได้นี้ เป็นความเห็นที่คงเส้นคงวาของนายอภิสิทธิ์ในการที่เห็นว่าการรัฐประหารเป็นสิ่งที่ทำได้ และในบางสถานการณ์ก็เป็นสิ่งที่ดีถึงขั้นที่ต้องช่วยสร้างเงื่อนไขหรือเชื้อเชิญให้เกิดขึ้น
"ที่ยังไม่เข้าใจก็คือเหตุใดคุณอภิสิทธิ์จึงออกมาพูดในตอนนี้ ทำไมจึงมาขู่ประชาชนว่าอย่าเลือกพรรคนั้นพรรคนี้ มิฉะนั้นจะเกิดรัฐประหาร ในขณะที่คนทั่วบ้านทั่วเมืองเขาเห็นกันหมดแล้วว่าการรัฐประหารที่ผ่านมา ได้ทำให้บ้านมืองเสียหายล่มจมไปแล้วอย่างไร" นายจาตุรนต์ กล่าว