นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง (ส.ส.) ฉบับที่... พ.ศ... รัฐสภา เปิดเผยว่า การพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่...) พ.ศ.... ในประเด็นการแก้ไขกระบวนการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ขั้นต้น หรือไพรมารี่วานนี้ ในสาระสำคัญได้ปรับวิธีการทำไพรมารี่จากเดิมที่กฎหมายกำหนดให้ทำทั้ง 400 เขตเลือกตั้ง เป็นทำเพียง 77 จังหวัด โดยใช้ที่ประชุมสาขาพรรคประจังหวัดหรือตัวแทนพรรคประจำจังหวัด จากนั้นให้สมาชิกมาประชุมเพื่อให้ความเห็นชอบ แทนการลงคะแนนเลือกตั้ง
ประเด็นดังกล่าว กมธ.ซีก ส.ว.ได้ท้วงติงเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของประชาชนที่กว้างขวางและไม่ต้องการให้พรรคเป็นผู้กำหนดหรือแต่งตั้งเอง แต่หากจะทำไพรมารี่โหวตเหมือนที่กฎหมายเดิมกำหนด พรรคการเมืองมองว่าทำไม่ได้จริง ดังนั้น จึงเป็นการหาทางออกร่วมกันและได้ข้อสรุปในรายละเอียดดังกล่าว
"การทำไพรมารี่ตามที่ กมธ.หารือ ตัวแทนของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ไม่แสดงความเห็น เนื่องจากกังวลว่าจะถูกมองว่าเป็นพรรคใหญ่ได้เปรียบและยังเอาเปรียบ ในการประชุมจึงเป็นการแสดงความเห็นของ ส.ว.และพรรคเล็ก ซึ่ง ส.ว.พยายามช่วยพรรคเล็กที่มีปัญหา ส่วนตัวผมเห็นด้วยเพื่อให้พรรคเล็กมีโอกาสทำงานภายใต้กติกาบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ผมมองว่าหากพรรคเล็กไปต่อไม่ไหว ขอให้ไปรวมกับพรรคใหญ่พรรคไหนก็ได้ เพราะการเขียนกติกาแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อคน 65 ล้านคน ไม่ใช่พรรคใดพรรคหนึ่ง ดังนั้นต้องปรับตัว" นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด กล่าวว่า มติของ กมธ.ที่แก้ไข พรรคใหญ่ยอมรับได้ไม่มีปัญหา และไม่ต่อต้าน อย่างไรก็ดีในส่วนของพรรคเพื่อไทยได้ทำเหนือกว่าไพรมารี่แล้ว เพราะในบางเขตเลือกตั้งมีผู้เตรียมลง ส.ส. 4 คน พรรคได้ทำโพล ซึ่งละเอียดกว่าไพรมารี่ อย่างไรก็ดีในกระบวนการและขั้นตอนรับฟังความเห็นของที่ประชุมสาขาหรือตัวแทนพรรคนั้น จะมีขั้นตอนที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องออกหลักเกณฑ์ให้สอดคล้องกับกฎหมายหลักและเปิดกว้าง เบื้องต้นมีหลักการว่า หากในบางจังหวัดที่พรรคไม่ส่งผู้สมัคร ส.ส.แบบเขต แต่ในพรรคส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ การออกความเห็นนั้นไม่ปิดกั้นที่จะให้เข้าร่วมประชุมข้ามจังหวัด
สำหรับร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่...) พ.ศ.... เบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มประชุมในส่วนของสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อได้ในวันที่ 12 พ.ค. และสามารถแล้วเสร็จได้ตามกำหนดเวลา ส่วนที่มีข่าวว่ายังมีปัญหาเรื่องตัวเลขที่ใช้คำนวณ จะยึดจำนวน 100 คนหรือ 500 คนหาร มองว่าต้องยึดตามหลักการของร่าง พ.ร.ป.ที่รัฐสภารับหลักการ คือ ใช้จำนวน 100 คนหาร
"หลักการของกฎหมายทำอย่างอื่นไม่ได้ แปรญัตติให้เป็นอื่นไม่ได้ ผิดหลักการ ซึ่งเรื่องนี้ นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ เข้าใจแล้ว ส่วนจะไปยื่นต่อศาลรัฐธรมนูญก็เป็นสิทธิ แต่ กมธ.ต้องทำงานตามมติของสภา นอกนั้นจะทำไม่ได้ แปรญัตติไม่ได้ แม้จะมีคนเสนอ กมธ.ไม่สามารถรับได้ เพราะผิดข้อบังคับการประชุมรัฐสภา" นายสมคิด กล่าว