พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี เยี่ยมชมการดำเนินงานของคูโบต้าฟาร์ม อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี
นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมประชุมแนวทางการพัฒนาการเกษตรของไทยไปสู่การเกษตรแบบ Smart Farming พร้อมมอบนโยบายการขับเคลื่อนนวัตกรรมและเทคโนโลยีการเกษตร การยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและภาคเกษตรกรรม ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ก่อนที่จะตรวจเยี่ยมคูโบต้าฟาร์ม 3 โซนหลัก คือ 1.โซนเกษตรแม่นยำ ข้าวและพืชหลังนา 2.โซนเกษตรทฤษฎีใหม่ และโคก หนอง นา โมเดล และ 3.โซนเกษตรสมัยใหม่พืชไร่
โดยนายกรัฐมนตรี รับฟังแนวทางการพัฒนาเกษตรสมัยใหม่และชุมชนต้นแบบ Smart Farming ที่ประสบความสำเร็จ ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนศูนย์ส่งเสริมและผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวชุมชนตำบลผักไหม อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ เรื่อง "ลด (ต้นทุน) ละ (การหว่าน) เลิก (การเผา)" และวิสาหกิจชุมชนทำนาห้วยตาดข่า อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี เรื่อง "ทดแทนแรงงาน ด้วยการบริหารเครื่องจักรกลการเกษตรที่มีประสิทธิภาพ" เน้นการใช้เครื่องจักรกลและเทคโนโลยีการเกษตร แบบรวมกลุ่ม เพื่อลดต้นทุนการเพาะปลูกพืช สร้างรายได้และอาชีพให้แก่คนในชุมชน และวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ปลูกข้าวหอมมะลิหนองผักบุ้งพัฒนา อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ เรื่อง "ชุมชน "น้ำ" ดี" นำเสนอการบริหารจัดการน้ำ และการปลูกพืชหมุนเวียนเพื่อสร้างรายได้ตลอดทั้งปี
จากนั้น นายกรัฐมนตรีรับฟังโครงการความร่วมมือการพัฒนา Smart Farming เพื่อเพิ่มผลผลิตและแก้ไขปัญหาความยากจนของเกษตรกร ได้แก่ การบูรณาการองค์ความรู้ ทั้งการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ลดความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก การให้ความรู้เพื่อสร้างความเข้มแข็งของภาคการเกษตร การจัดการโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การติดตั้งสถานีวัดอากาศให้ครอบคลุมพื้นที่การเกษตร การปรับสภาพพื้นที่ให้เหมาะสมกับการเพาะปลูก การเข้าถึงเครื่องจักรกลการเกษตรและนวัตกรรมการเกษตรสมัยใหม่
รวมทั้งด้านการตลาด โดยการสนับสนุนให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงข้อมูลด้านการตลาด ทั้งปริมาณความต้องการและราคา เพื่อวางแผนการเพาะปลูกได้อย่างแม่นยำ รวมทั้งการขยายตลาดใหม่เพื่อความยั่งยืน สร้างโอกาสใหม่ในการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งโครงการมีความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชนที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เช่น โครงการเกษตรปลอดการเผา โครงการเกษตรปลอดนาหว่าน แอพพลิเคชั่นปฏิทินการเพาะปลูก KAS โครงการแรงงานคืนถิ่น โครงการต้นกล้าดิจิทัล เป็นต้น
นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายว่า รัฐบาลมุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร และภาคเกษตรกรรมของไทยให้อยู่ในระดับแนวหน้า กลุ่มเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จในการทำ Smart Farming จะเป็นตัวอย่างและเป็นแรงบันดาลใจให้กับพี่น้องเกษตรกรไทยทั่วประเทศที่คาดหวังจะประสบความสำเร็จในอนาคต พร้อมเน้นย้ำว่าภาคการเกษตรคืออนาคตของประเทศไทย โดยปัญหาขณะนี้คือเกษตรกรออกจากภาคการเกษตรไปทำอาชีพอื่นเป็นจำนวนมาก ในขณะที่รายได้ภาคเกษตรก็ลดลงเช่นกัน ดังนั้นต้องช่วยกันหาแนวทางเพื่อทำให้สิ่งที่เป็นอยู่ดั้งเดิมมีมูลค่าสูงขึ้น ประชาชนมีรายได้ที่เหมาะสม และหลุดพ้นจากความยากจน
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า การทำเกษตรจะต้องมีการพัฒนาปรับให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก และสอดคล้องกับศักยภาพของแต่ละพื้นที่ ซึ่งรัฐบาลได้บริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบมีประสิทธิภาพ พร้อมส่งเสริมเครื่องจักรกลการเกษตร ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องเกษตรกร และเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรเท่านั้น แต่ยังช่วยลดปัญหาการเผาพืชผลทางเกษตร เช่น ข้าวโพด อ้อย ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาหมอกควัน PM2.5 ด้วย และการยกระดับเกษตรแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่ การใช้เทคโนโลยีและข้อมูลดิจิทัล
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการขับเคลื่อนเรื่องเครื่องจักรกลการเกษตร ที่ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้การสนับสนุนงบประมาณให้กับกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ ซึ่งบางพื้นที่ประสบปัญหาการดูแลบำรุงรักษาเครื่องจักรกล ดังนั้น ขอให้หน่วยงานต่าง ๆ ร่วมกันส่งเสริมการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรในวงกว้างต่อไป เช่น การสร้าง Start up กลุ่มเกษตรอัจฉริยะ โดยสนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยพิเศษหรือเงินอุดหนุนแก่ Young Smart Farmer เพื่อนำไปบริหารจัดการหรือให้บริการเครื่องจักรกลการเกษตรในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะ ส.ส. เจ้าของพื้นที่ได้มาให้การต้อนรับร่วมกับ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า กลุ่มบ้านใหญ่ของตระกูลคุณปลื้ม ที่มีนายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ไม่ได้มารอต้อนรับด้วย โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้ทักทายกับ ส.ส. และกลุ่มอาสาสมัครแรงงาน และเครือข่ายด้านแรงงานจังหวัดชลบุรี ที่สวมใส่เสื้อสีเหลือง พร้อมชูป้ายข้อความยินดีต้อนรับ และตะโกนว่า "ลุงตู่สู้ๆ" ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวตอบว่า "สู้อยู่แล้ว ถ้าไม่สู้ คงไม่มาถึงขนาดนี้ ถ้ารักกัน อย่าทิ้งกันนะ"
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวกับ ส.ส.ที่มารอต้อนรับว่า ให้ทำเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่ ทำประโยชน์เพื่อบ้านเมือง ขอให้ช่วยกัน อย่ามองแค่การเมือง ขอให้มองประเทศ ยึดชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และขอให้ทำงานสำเร็จทุกคน เพราะตนและรัฐมนตรีอยู่อีกไม่กี่ปี ก่อนจะทักทายกับกลุ่ม ส.จ.ชลบุรี ว่าชลบุรีมีศักยภาพ