นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการพูดคุยทำความเข้าใจกับพรรคเล็ก โดยเชื่อว่าขณะนี้คลื่นลมน่าจะเริ่มสงบแล้ว และตัวแทนจากพรรคเล็กที่มาพูดคุยเป็นระดับหัวหน้าพรรค ถือว่ามีคุณวุฒิวัยวุฒิสูง ดังนั้นที่ผ่านมาจึงเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนกัน โดยเมื่อตนได้เข้ามาเป็นโซ่ข้อกลาง ทำหน้าที่ประสานข้อมูลที่แท้จริง ถูกต้อง ชัดเจน ทุกคนต่างก็เข้าใจและเคลียร์ทุกประเด็น
ส่วนความมั่นใจว่าเสียงในสภาฯ จะมากกว่า 250 เสียงหรือไม่นั้น นายสุชาติ กล่าวว่า ยังไม่กล้าที่จะพูดขนาดนั้น การเมืองต้องดูจากสมการฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ซึ่งเป็นการวิเคราะห์และเป็นการคาดการณ์ เหมือนเวลาทำข้อสอบ
ส่วนที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย เตรียมจะฟ้อง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฐาน ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในการครอบงำพรรคไม่ให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย ไปร่วมรับประทานอาหารด้วยนั้น นายสุชาติ กล่าวว่า นายยุทธพงศ์ คงไม่มีอะไร เป็นแค่สีสันทางการเมืองของฝ่ายค้าน ซึ่งต่างคนต่างมีหน้าที่ สิ่งที่พูดและสิ่งที่ทำเหมือนเป็นสีสัน เป็นตัวตน และเอกลักษณ์ของนายยุทธพงศ์
"การเมืองไม่จำเป็นต้องติดใจกันทุกคำพูด บางครั้งพูดมาก็เพื่อเป็นสีสัน หรือเป็นหน้าที่ ก็ต้องยอมรับกัน แต่ยืนยันว่าสิ่งที่ พล.อ.ประวิตร ดำเนินการ ไม่ได้ถือเป็นการครอบงำ เพราะสื่อมวลชนไปถาม และพล.อ.ประวิตร ก็ตอบ ซึ่งใครๆ ก็มีเบอร์ของพล.อ.ประวิตร พรรคฝ่ายค้านก็สามารถโทรหาพล.อ.ประวิตรได้ ดังนั้น การที่จะโทรคุยกันเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ได้ไปร่วมประชุมกับพรรคอื่น หรือไปสั่งการเป็นมติที่ประชุม" นายสุชาติ กล่าว
พร้อมมองบทบาทฝ่ายค้านต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า เหลือแค่ปีสุดท้ายจะนับถอยหลังสู่การเลือกตั้ง ดังนั้นทุกคนก็ต้องชิงพื้นที่สื่อ เพื่อทำให้พรรคแต่ละพรรคมีชื่ออยู่ในสื่อ ถ้าใครไม่ชิงพื้นที่สื่อก็อาจจะลืมพรรคนั้นไป จึงถือว่าเป็นเรื่องปกติที่แต่ละคนก็จะต้องมีช่องทางที่จะโปรโมทตัวเอง หรือโปรโมทพรรคเป็นเรื่องปกติ