นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครครั้งนี้ว่า พรรคประชาธิปัตย์ประสบผลสำเร็จในระดับหนึ่ง และสามารถลบคำปรามาสการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาจากที่ไม่ได้ ส.ส. แต่ครั้งนี้ได้ ส.ก.
"อย่างน้อย ประชาชนยังให้โอกาสพรรคในการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งสะท้อนอย่างชัดเจนว่า คนกรุงเทพฯ ยังไม่ได้ทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ และยังคงให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์อยู่ ดูได้จากการเลือกตั้งซ่อมในต่างจังหวัดที่พรรคชนะการเลือกตั้ง ใน จ.ราชบุรี จ. สงขลา จ.ชุมพร" นายจุรินทร์ ระบุ
อย่างไรก็ดี พรรคประชาธิปัตย์ได้เตรียมการส่งผู้สมัคร ส.ส. ในพื้นที่ กทม. 33 เขตแล้ว และตนก็พร้อมจะเดินหน้าลงพื้นที่กรุงเทพฯ ทันที เพื่อเตรียมการเลือกตั้งใหญ่ในครั้งต่อไป
ส่วนจะดึงนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ มาช่วยงานพรรคในตำแหน่งใดหรือไม่นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ต้องหารือกันก่อน เพราะช่วงนี้ให้นายสุชัชวีร์ได้พักผ่อนก่อนหลังจากหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. มานาน แต่ยืนยันว่านายสุชัชวีร์ เป็นบุคลากรที่มีศักยภาพของพรรค ดังนั้นจะช่วยงานได้เป็นอย่างดี ส่วนจะให้ลง ส.ส.ในพื้นที่ กทม.ครั้งต่อไปหรือไม่ จะต้องหารือก่อน
พร้อมมั่นใจว่า พรรคประชาธิปัตย์จะกลับมาทวงคืนพื้นที่ทางภาคใต้ได้ และถือว่าทุกอย่างกำลังเดินหน้าไปด้วยดี และเป็นหน้าที่ของพรรคประชาธิปัตย์ในการคัดเลือกผู้สมัครให้ดีที่สุดเพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน รวมทั้งการนำเสนอนโยบายที่สอดคล้องกับการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ให้เกิดเป็นรูปธรรมควบคู่ไปกับผลงานที่พรรคดำเนินการอยู่ ซึ่งสามารถจับต้องได้
"การแก้ไขปัญหาภาคการเกษตรให้ดีขึ้น จากนโยบายประกันรายได้ รวมถึงการนำเงินเข้าประเทศ ด้วยการทำตัวเลขส่งออกได้เป็นบวกสูงสุดในประวัติศาสตร์ และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องนี้ คือสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ที่ได้รับเสียงตอบรับดีขึ้นตามลำดับ ในทุกภาคทั่วประเทศ" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
ด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากที่พรรคได้สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) 9 ที่นั่ง เป็นสัดส่วนที่น่าพอใจ จากเดิมตั้งเป้าไว้ 10 คน การที่ได้ 9 ที่นั่งเป็นจำนวนที่ใกล้เคียงกับที่ตั้งเป้าไว้ เพราะได้คะแนนเป็นลำดับที่ 2 อยู่ 4-5 เขต ซึ่งคะแนนห่างกันไม่มาก ดังนั้นหากรวมคะแนนส.ก. ถือว่าเป็นที่น่าพอใจจากเดิมที่ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีส.ส. ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยเมื่อหารเฉลี่ยคิดเป็นสัดส่วนจำนวนประชากร จะได้ผู้แทนเกือบ 6 ที่นั่ง โดยคิดจากฐาน ส.ส. 33 คน ขณะเดียวกันต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน ส่วนทางยุทธศาสตร์ผลคะแนนจะต้องนำไปวิเคราะห์อีกครั้งหนึ่ง พร้อมย้ำว่าพอใจในสิ่งที่ประชาชนมอบให้
พร้อมยืนยันว่า ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งในกระทรวงมหาดไทย ไม่มีปัญหาในการทำงานร่วมกับผู้ว่าฯกทม. เมื่อประชาชนตัดสินใจเลือกก็ต้องเคารพ เพราะกทม.ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของท้องถิ่นที่มีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยกำกับดูแล