รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า กลุ่มขบวนต่อต้านร่างกฎหมายควบคุมการรวมกลุ่มของประชาชน นำโดยนายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ นายสมบูรณ์ คำแหง แกนนำเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น และน.ส.สุภาภรณ์ มาลัยลอย ผู้จัดการมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) ได้เคลื่อนขบวนมาจากด้านหน้าองค์การสหประชาชาติ (UN) ถนนราชดำเนินนอก เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกร่างกฎหมายควบคุมการรวมกลุ่มของประชาชน แต่เมื่อมาถึงบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลัง พร้อมวางแนวแผงเหล็กและลวดหนาม รวมถึงรถฉีดน้ำแรงดันสูง (จีโน่) มาเตรียมความพร้อม เพื่อดูแลความปลอดภัยบริเวณรอบทำเนียบ เนื่องจากเป็นวันที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งบรรยากาศระหว่างการเคลื่อนขบวน มีการแจกหน้ากากรูปดวงตา และตะโกน "หยุดระบอบ คสช. หยุด พ.ร.บ.การรวมกลุ่ม"
ทั้งนี้ ได้เกิดเหตุชุลมุนเป็นระยะ เนื่องจากผู้ชุมนุมไม่พอใจที่ถูกขัดขวางไม่ให้เข้าประชิดรั้วทำเนียบรัฐบาล ฝั่งถนนพิษณุโลก จน 2 ฝ่ายมีการประสานส่งตัวแทนมาเจรจา โดยในเวลา 10.30 น. นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทน ครม. มารับหนังสือจากตัวแทนผู้ชุมนุมที่เรียกร้องให้ยกเลิกมติ ครม.ที่เห็นชอบหลักการร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งเป็นการควบคุมเสรีภาพของประชาชนในทันที
นายอนุชา ยืนยันว่า มีความจริงใจที่จะมารับฟังปัญหา แต่การที่จะให้ ครม.มีคำตอบภายในวันนี้ คงต้องร่วมกันพิจารณาว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ดังนั้นต้องขอเวลา 1 เดือน เพื่อไปศึกษาทางออกร่วมกัน ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมส่งเสียงโห่ ก่อนที่ตัวแทน จะระบุว่า ทางกลุ่มได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีมาแล้วเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา และยืนยันว่าจะต้องได้คำตอบจาก ครม.ภายในวันนี้
จากนั้น นายอนุชา ระบุว่า จะนำข้อเรียกร้องไปหารือ ส่วนมติ ครม.จะออกมาเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับการพิจารณา คงไม่สามารถบอกได้
ด้านนายสมบูรณ์ ได้ยื่นคำขาดจะปักหลักชุมนุม เพื่อรอคำตอบจากครม. พร้อมระบุว่าหากเป็นผลออกมาที่ไม่น่าพอใจ ยืนยันจะเดินหน้าต่อต้านให้ใหญ่กว่าเดิม
อนึ่ง ร่าง พ.ร.บ.ควบคุมการรวมกลุ่ม มีสาระสำคัญเพื่อการวางมาตรการให้องค์กรภาคประชาสังคม ที่อยู่ในรูปแบบสมาคม มูลนิธิ หรือคณะบุคคล ต้องเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับองค์กร เพื่อให้รัฐและสาธารณชนเข้าถึง อีกทั้งต้องไม่ทำการที่จะกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อย ศีลธรรมอันดี และไม่ก่อให้เกิดความแตกแยก