นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2566 ว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณถือเป็นกฎหมายสำคัญของรัฐบาล หากสภาฯ ไม่ให้ผ่านจะส่งผลต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ซึ่งมีทางเลือก 2 ทาง คือไม่ยุบสภาก็ต้องลาออก
อย่างไรก็ตาม พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ดูเนื้อหาสาระของแผนงานงบประมาณมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า จะไม่เห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบฯ 66
"บทบัญญัติทางรัฐธรรมนูญเขียนไว้ว่าแม้ร่าง พ.ร.บ.งบฯ จะไม่ผ่าน ก็สามารถใช้งบประมาณเดิม คือ พ.ร.บ.งบฯ 65 ไปพลางก่อน เว้นแต่เป็นเรื่องงบลงทุนที่จะสร้างใหม่ ดังนั้นแผนงานโครงการต่างๆ ที่เป็นเรื่องประจำก็สามารถทำได้ต่อ แต่ไม่อนุญาตให้เอาไปลงทุนในสิ่งที่เห็นว่าไม่ชอบ ถ้าหากปล่อยไปอาจจะกระทบต่อพี่น้องประชาชนมากกว่า ดังนั้นจึงทางเลือกที่จะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน เพราะการไม่ให้ผ่านอาจจะเกิดประโยชน์กับประชาชนมากกว่า และปล่อยให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาจัดสรรงบประมาณแทน" นพ.ชลน่าน กล่าว
ส่วนกรณีที่พรรคเศรษฐกิจไทยมีปัญหาภายในพรรคจะดึงเข้ามาเป็นแนวร่วมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ปัญหาภายในพรรคเป็นมิติทางการเมือง ส่วนสาเหตุของปัญหาที่ถ้าเป็นสมมติฐานที่ตนตั้งขึ้นว่าเกิดจากการสนับสนุนรัฐบาลชุดปัจจุบันหรือสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ต้องพิจารณาสิ่งที่พรรคดังกล่าวแสดงจุดยืนว่า จะมาในทิศทางการเมืองที่ฝ่ายค้านมุ่งหวังหรือไม่อย่างไร
"ถ้ามีความชัดเจนในตัวเองที่ไม่สนับสนุนรัฐบาลจะไม่เป็นฝ่ายค้านก็ได้ จะเป็นฝ่ายที่ต้องการตรวจสอบรัฐบาล หรือฝ่ายที่ไม่ต้องการให้มีการสืบทอดอำนาจ หรือไม่อนุญาตให้รัฐบาลชุดนี้อยู่ต่อ ทั้งนี้ผมมองว่าไม่ต้องดีล เขาก็มาเอง" นพ.ชลน่าน กล่าว