นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วย นายจักกพันธุ์ ผิวงาม อดีตรองผู้ว่าฯ กทม.เดินทางไปสำรวจที่ดินเอกชนขนาดประมาณ 2 ไร่ บริเวณสี่แยกวงศ์สว่าง ติดกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีวงศ์สว่าง หลังมีกระแสข่าวว่าเจ้าของที่ดินยินดียกให้ กทม. โดยสำนักงานเขตบางซื่อเช่าใช้ประโยชน์เพื่อพัฒนาเป็นสวนสาธารณะ สอดคล้องกับนโยบายหาเสียง "สวน 15 นาทีทั่วกรุงฯ" ซึ่งตนเองมีเป้าหมายสร้างพื้นที่สาธารณะสำหรับประชาชนใช้งานได้กระจายตัวอยู่ทุกที่ และสามารถเข้าถึงได้ด้วยการเดินภายใน 15 นาที
โดยหนึ่งในแนวทางเพิ่มพื้นที่สีเขียวคือการอาศัยกลไกทางภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจูงใจให้เอกชนมอบที่ดินให้ กทม.พัฒนาเป็นพื้นที่สีเขียวเพื่องดเว้นการเสียภาษี ซึ่งจำเป็นต้องทบทวนกรอบกฎหมายและอำนาจที่ กทม.สามารถดำเนินการได้ อย่างไรก็ตามอยากเชิญชวนประชาชนที่มีที่ดินมอบให้ กทม.เช่าเพื่อพัฒนาเป็นพื้นที่สีเขียวที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับเมืองหลายด้าน ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ ลดอาชญากรรม ถือเป็นการทำบุญเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม
ส่วนเรื่องการจัดเก็บภาษีตามโซนของผังเมืองนั้น นายชัชชาติ กล่าวว่า ต้องดูอำนาจที่มีก่อนว่าสามารถทำได้มากน้อยเพียงใด ต้องมีการพิจารณาโดยละเอียดในแต่ละพื้นที่ว่าเป็นผังเมืองสีอะไร เช่น พื้นที่การเกษตรจะเข้าไปขึ้นภาษีมากไม่ได้ต้องพยายามทำให้ต่ำที่สุด ยกเว้นมาทำการเกษตรในพื้นที่กลางเมือง เช่น เป็นผังเมืองเชิงพาณิชย์สีแดง พื้นที่หนาแน่นปานกลางสีส้ม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่เหมาะในการทำการเกษตร ถ้าเป็นไปได้ในอนาคตอาจมีการพิจารณาในการเอาสีผังเมืองเข้าไปร่วมเป็นมาตรการในการกำหนดภาษี แต่ยังไม่ได้เป็นข้อสรุปว่าจะมีการเพิ่มอัตราภาษี เนื่องจากต้องตรวจสอบข้อกฏหมายให้ละเอียดก่อน
"ต้องดูข้อกฏหมายก่อนว่าเราสามารถเอาผังสีไปกำหนดร่วมกับอัตราภาษีได้หรือไม่ เพราะใน พ.ร.บ.ยังเขียนไว้ไม่ชัดเจน ซึ่งเขียนไว้ว่า กทม.มีอำนาจในการปรับอัตราภาษีให้ไม่เกิดอัตราสูงสุด แต่ไม่ได้พูดถึงว่าเอาเงื่อนไขอื่นมากำกับได้หรือไม่ ยังไม่ได้สรุปว่าจะมีการขึ้นภาษี แต่คาดว่าเราต้องไปดูว่าสุดท้ายแล้ววิธีการไหนที่ กทม. มีอำนาจ ไม่ต้องเปลี่ยนกฏหมาย เอาอำนาจที่มีอยู่เดิมมาใช้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนที่อยู่ในเมือง หาช่องทางในการเอาพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ มาเป็นทำให้เป็นพื้นที่สาธารณะของประชาชนมากขึ้น" นายชัชชาติ กล่าว