พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ วาระพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ถึงการจัดสรรงบเพื่อความมั่นคง เพื่อซื้อยุทโธปกรณ์ของหน่วยงานในกองทัพว่า กระทรวงกลาโหมต้องใช้งบประมาณอย่างจำกัด โดย 2 ปีที่ผ่านก็ลดงบประมาณไปพอสมควร และขอความเห็นใจว่า งบประมาณต้องกำหนดล่วงหน้า เพราะไม่สามารถรอให้ยุทโธปกรณ์หมดอายุถึงจัดหาได้ เพราะต้องใช้เวลาในการจัดซื้อพอสมควร งบประมาณที่วางไว้จึงกำหนดตามความจำเป็น
ทั้งนี้ ไม่มีใครรับประกันสถานการณ์ในอนาคตได้ ตอนนี้อาเซียนยังเข้มแข็ง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแต่ละกลุ่มนั้นมีความแตกต่างกันและเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา
"ขอความเข้าใจว่าเราจำเป็นต้องซื้อเพื่อต่อระยะสายตา เพราะไม่สามารถซื้อแบบกะทันหันได้ หากติดตามดูจะเข้าใจ ว่าประเทศไทยไม่ได้รับความช่วยเหลือมาระยะหนึ่งแล้ว เราต้องพึ่งการป้องกันตัวเอง ซื้อเท่าที่จำเป็น ในส่วนของการทุจริต มีผลประโยชน์ ขอให้ไปสอบสวน เจ้าหน้าที่กรรมการผู้รับผิดชอบชี้แจงได้"
ในส่วนงบประมาณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ได้มีการจัดสรรเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ และดูแลในด้านสวัสดิการ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องความมั่นคงเป็นสิ่งสำคัญ ที่อาจจะลืมไปว่าทุกวันนี้ที่บ้านเมืองทั้งชายแดน และความสงบสุขภายในประเทศ ต้องใช้กำลังคนเหล่านี้เข้ามาทำงานร่วมกับฝ่ายพลเรือนทั้งสิ้น เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างพลเรือน ตำรวจ และทหาร ซึ่งมีการทำงานร่วมกันในหลายๆ ภารกิจ ซึ่งก็ได้กำหนดไว้ตามรัฐธรรมนูญที่ให้ทหารและตำรวจต้องร่วมพัฒนาประเทศ บรรเทาภัยพิบัติ ปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนไปด้วย พร้อมกับทำหน้าที่ในการป้องกันประเทศ และการปราบปรามอาชญากรรม
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ภายใต้งบประมาณที่จำกัด รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะดูแลประชาชนตามช่วงวัย รวมถึงกลุ่มผู้ด้อยโอกาส เพื่อช่วยเหลือให้เข้าถึงสวัสดิการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสวัสดิการสังคมและจะต้องสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน หากบูรณาการการทำงานได้ก็จักร่วมกันทำงาน ทั้งสนับสนุนภารกิจทั้งหมด เพราะนายกฯ ห่วงใยประชาชนทุกคน
ด้านพล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ชี้แจงว่า อาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆจะจัดหาเท่าที่จำเป็น มุ่งเน้นซ่อมบำรุง เพื่อยืดอายุการใช้งานและให้ความสำคัญกับการวิจัยพัฒนายุทโธปกรณ์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการพึ่งพาตนเอง ลดการนำเข้าจากต่างประเทศ ส่วนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศรัฐบาลเห็นความสำคัญในส่วนนี้ เพื่อนำไปสู่การผลิตใช้เอง แต่นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายกับเหล่าทัพว่า การจัดหายุทโธปกรณ์เครื่องมือที่ผลิตโดยอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของเราเอง ตั้งแต่ปีงบประมาณ 66 เป็นต้นไป ส่วนยานเกาะล้อยาง และอากาศยานไร้คนขับ ตอนนี้อยู่ในขั้นวิจัยและรับรองมาตรฐาน จากนี้ต่อไปเป็นขั้นการผลิตเป็นไปตามความต้องการ
สำหรับการจัดซื้อเรือดำน้ำได้ดำเนินการแบบรัฐบาลต่อรัฐบาลตามกฏหมายและข้อบังคับทางราชการที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่จีนไม่สามารถปัญหาเครื่องยนต์ MTU ตามที่กำหนดไว้ในสัญญากองทัพเรือนั้น ทางกองทัพเรือไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยประสานและเชิญผู้แทน หรือเจ้าของบริษัทผู้ผลิตมาร่วมหาทางออก และกองทัพเรือ ยืนยันว่า จะต้องให้เป็นไปตามสัญญาและข้อตกลง รวมทั้งระเบียบและกฏหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยคาดว่าในเดือนมิ.ย.นี้ บริษัทผู้ผลิตจะจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาประสานงานกันกองทัพเรือ และกองทัพเรือจะยึดถือสัญญา ยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก
พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า การจัดหายุทธโธปกรณ์ นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำทุกหน่วยงานในกระทรวงกลาโหมว่า การจัดซื้อจัดจ้างจะต้องโปร่งใส ถูกระเบียบมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและคำนึงถึงประโยชน์ของกองทัพและชาติเป็นสำคัญ ส่วนการจัดหาอากาศยานไร้คนขับประจำฐานบินชายฝั่งของกองทัพเรือ ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาอย่างรอบด้าน