นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรลงมตืรับหลักการร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ?) พ.ศ. ?หรือร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ในวาระ 1 ด้วยคะแนน 178 ต่อ 137 งดออกเสียง 15 เสียง ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญจำนวน 25 คน แบ่งเป็น คณะรัฐมนตรี 5 คน และพรรคการเมือง 20 คน แปรญัตติภายใน 7 วัน ซึ่งหากร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวผ่านการพิจารณาและใช้เป็นกฎหมายจริง จะมีประโยชน์ดังนี้
1.ของถูกจะกลายเป็นของแพง ด้วยการแปรรูปสินค้าเกษตรให้มีมูลค่าสูงขึ้น
2.มีธุรกิจใหม่เกิดขึ้น และจะมีเม็ดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจชุมชนไม่น้อยกว่า 3 หมื่นล้านบาท
3.เปิดโอกาสการท่องเที่ยวท้องถิ่น เพราะมีสินค้าชุมชนเกิดขึ้นทำให้เกิดอัตลักษณ์
4.มีภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นจุดขายให้กับประเทศ
5.ลดการนำเข้าเหล้าเบียร์จากต่างประเทศ และยังสามารถส่งออกได้ ทำให้เกิดดุลการค้ากลับมา 3,000 ล้านบาทต่อปี
6.ลดอำนาจการต่อรองราคาพืชผลทางการเกษตร
7.เกิดอุตสาหกรรมต่างๆ เกี่ยวข้องกับการสุรา เช่น การนำกากไปผลิตเป็นอาหารสัตว์ หรือทำก๊าซชีวภาพเพื่อใช้ในครัวเรือน
ส่วนร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า จะผ่านการพิจารณาในวาระ 2 และวาระ 3 หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เรามีความหวัง โดยช่วงเวลาต่อจากนี้พรรคก้าวไกลจะเดินสายทำความเข้าใจกับประชาชนให้มากขึ้นและจะอธิบาย 7 เหตุผลดังกล่าวให้ ส.ส.รับทราบ พร้อมย้ำเรามีความหวัง ในวาระ 2 และวาระ 3 ไม่ยอมแพ้
ด้านนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้เสนอร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า กล่าวว่า เมื่อร่างกฎหมายได้ถูกผลักดันจนผ่านวาระ 1 ต่อไปเป็นเรื่องของกรรมาธิการ พรรคก้าวไกลขอยืนหยัดในหลักการ และพยายามหาจุดที่ลงตัว เพื่อทำให้ร่างกฎหมาย ผ่านในวาระ 2 และวาระ 3 เพื่อไม่ให้เป็นปาหี่ มวยล้มต้มคนดู
"ผมตอบได้ไม่เต็มปากว่าดีใจหรือไม่ แต่ความรู้สึกที่เด่นที่สุดคือ ผมไม่ใช่ซีโร่ทูฮีโร่ เพราะการเมืองทำคนเดียวไม่ได้ และอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่สรรพสามิต และ รมว.คลังว่าให้แก้กฎกระทรวงรอไว้เลย เพราะมันเปลี่ยนไปแล้ว 3 เดือน ยังไงสภาฯ ก็ผ่านร่างกฎหมายนี้" นายเท่าพิภพ กล่าว