รายงานข่าว แจ้งว่า การประชุมวุฒิสภา (ส.ว.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภาเป็นประธาน ได้มี ส.ว.ขอหารือถึงกรณีที่มีปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ขณะที่ยังไม่มีกฎหมายควบคุมการเสพเพื่อสันทนาการออกมารองรับ จนทำให้เกิดสุญญากาศการปลดล็อกกัญชาเสรี
นายสมชาย แสวงการ ส.ว. กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ เพื่อแก้ปัญหาสุญญากาศกัญชาเสรี โดยออกพระราชกำหนดที่มีเนื้อหาตามร่าง พ.ร.บ. กัญชา กัญชง ที่สภาผู้แทนราษฎรรับหลักการไปปรับปรุงแก้ไข โดยกำหนดข้อห้าม ข้อควบคุมการนำเข้า ส่งออก ขนย้าย เพื่อดูแลสังคมและเยาวชน
ทั้งนี้ เชื่อว่าร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจะตราไม่ทันใช้บังคับในสภาชุดปัจจุบัน และต้องรอสภาฯอีกสมัย ซึ่งอาจทำให้เกิดสุญญากาศนานอีก 1 ปี นอกจากนั้นต้องออกระเบียบเพิ่มเติม โดยแยกกัญชาครัวเรือน กัญชาทางการแพทย์ กัญชาเพื่อการค้า โดยเฉพาะการค้าต้องมีข้อมูลส่วนผสม รวมถึงต้องตรวจสาร THC ทุกครั้ง แต่ปัญหาคือค่าตรวจมีราคาแพง และไม่มีแล็บทั่วประเทศ
นายสมชาย กล่าวว่า ขอให้มีมติ ครม.ห้ามใช้ เสพ สูบ ปรุง หรือด้วยวิธีอื่นใด โดยเฉพาะส่วนของช่อดอกกัญชา เพื่อสันทนาการทุกกรณี ยกเว้นเพื่อปรุงยาทางการแพทย์ สกัดน้ำมันกัญชาที่ผ่านการเจือจางให้ค่า THC เหลือ 0.2% นอกจากนั้นขอให้นายกฯสั่งการไปยัง ป.ป.ส. หน่วยข่าวกรองทหาร สันติบาล กวดขันคูแลขบวนการขนย้ายกัญชาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพราะทราบว่ามีขบวนการค้ากัญชาที่เตรียมไว้
"นายกฯ ในฐานะประธาน ก.ตร.ต้องกำชับสำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบเส้นทางการขนย้าย จำหน่ายกัญชาสูบในอินเตอร์เน็ต รวมถึงต้องเร่งสนับสนุนงบวิจัยผลกระทบในเชิงนโยบายและการคุ้มทุน โดยให้กระทรวง อว. และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการ" นายสมชาย กล่าว
นายสมชาย กล่าวยังระบุด้วยว่า เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.61 นายกฯ ได้ลงนามท้ายร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ที่นำกัญชามาใช้ทางการแพทย์และรักษาโรคได้ โดยนายกฯ เป็นผู้ตรวจร่างกฎหมาย พร้อมลงลายเซ็นและมีข้อความกำกับว่า ให้ทบทวนความเหมาะสมใน 6 เดือนถึง 3 ปี และให้ควบคุมตามกฎหมาย ดังนั้นขอให้พิจารณาฟังความเห็นของประชาชนที่เสนอความคิดเห็นกว่า 9.4 แสนคน โดยเห็นด้วยกับกัญชาทางการแพทย์แต่ไม่เห็นด้วยกับกัญชาเสรีที่ละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศและไร้การควบคุม ดังนั้นขอให้นายกฯ รีบสั่งการ อย่ารอกฎหมาย และบอกว่ามีกฎหมายอยู่ ทั้งนี้ตนสนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ แต่คัดค้านเสรีกัญชาที่ไร้การควบคุมกำกับและดูแล ความรับผิดชอบทางสังคม
นายสมชาย กล่าวว่า มาตรการควบคุมค่อนข้างอ่อน และไม่สามารถควบคุมได้จริง เช่น ปรับจากควันกัญชาในที่สาธารณะ 25,000 บาท, ห้ามขับรถยนต์สาธารณะ แต่ไม่ห้ามการขับขี่จักรยานยนต์ ไม่ห้ามคนเสพกัญชาออกมาบนถนน และไม่ห้ามเด็กเยาวชน ดังนั้นต่อไปอาจมีคนซื้อบ้องกัญชามาเสพในสภาได้หมด ดังนั้นขอให้นายกฯ รับฟังความกังวลของอายุรแพทย์ จิตแพทย์ และกุมารแพทย์ รวมถึงกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทยที่ระบุว่ากัญชาคือสิ่งต้องห้าม ทั้งนี้ ขอให้นายกฯ อย่าฟังแพทย์การเมือง เพราะเป็นสิ่งอันตรายต่อจรรยาบรรณของนายกฯ
ด้านนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว. มองว่าการออก พ.ร.ก.อาจมีผลกระทบ ดังนั้นสิ่งที่จะอุดช่องว่างสุญญากาศกัญชาเสรีได้ คือ ให้ รมว.สาธารสุข ออกประกาศตามอำนาจในมาตรา 44 และมาตรา 45 ของ พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 เป็นการชั่วคราว โดยให้กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม