กลุ่มมวลชนอิสระ นำโดย "ม่อน อาชีวะ" ซึ่งแต่งกายด้วยชุดไทย ทยอยเดินทางไปชุมนุมที่หน้ากระทรวงพลังงาน ถ.วิภาวดีรังสิต เพื่อเรียกร้องให้แก้ปัญหาราคาน้ำมันแพงที่ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนอยู่ในขณะนี้ และยืนยันว่าจะปักหลักจนกว่าจะได้พบกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน
เมื่อเวลาประมาณ 15.15 น. กลุ่มมวลชนแม้จะยังมีจำนวนไม่มากนัก แต่ได้พยายามปิดถนนวิภาวดีขาออก 2 เลน เหลือสัญจรได้เพียง 1 เลน บริเวณหน้าประตูกระทรวงพลังงาน ส่งผลการจราจรติดขัดหางแถวยาวข้ามแยกลาดพร้าว ขณะที่กระทรวงพลังงานปิดประตูเข้า-ออกทุกประตู
อย่างไรก็ดี ผู้ชุมนุมยืนยันว่าจะไม่มีการใช้ความรุนแรง และจะไม่เคลื่อนขบวนไปที่ดินแดงอย่างแน่นอน
จากนั้น เมื่อเวลาประมาณ 15.43 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน พร้อมอุปกรณ์โล่กำบัง ออกมายืนตั้งแนวตรึงกำลังอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิตขาออกบริเวณหน้า บมจ. ปตท. (PTT) และเริ่มเดินเรียงแถวหน้ากระดานไปยังหน้ากระทรวงพลังงาน เพื่อกระชับพื้นที่
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าต้องทำตามกฎหมาย เนื่องจากผู้ชุมนุมที่อยู่บริเวณหน้าทางเข้ากระทรวงพลังงานฝ่าฝืนกฎหมายด้วยการปิดถนน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้โทรโข่งประกาศแจ้งเตือนผู้ชุมนุม เพื่อขอให้เปิดเส้นทางการจราจร และย้ายการชุมนุมจากบนถนนขึ้นไปอยู่บนฟุตบาธแทน แต่การเจรจายังไม่ได้ข้อยุติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุกระทบกระทั่งกันเล็กน้อย ระหว่างผู้ชุนนุมกับเจ้าหน้าที่ คฝ. โดยผู้ชุมนุมหญิงรายหนึ่งได้พยายามใช้มือดันโล่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยไม่ยอมให้แนวของตำรวจ คฝ.เดินเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ และเริ่มมีผู้ชุมนุมมาช่วยกันดันโล่ของเจ้าหน้าที่ ซึ่งทำให้สถานการณ์เริ่มตึงเครียด แต่ไบร์ท ชินวัตร แนวร่วมผู้ชุมนุมได้เข้ามาห้ามปรามผู้ชุมนุมให้ขยับออกจากแนวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ คฝ. ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยอมถอยออกจากแนว และกลับไปยังที่ตั้ง
อย่างไรก็ดี จากการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ที่ต่างยอมถอยกันคนละก้าว ทำให้ไม่มีการปะทะหรือไม่มีความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น ซึ่งล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถอนกำลัง และการชุมนุมได้ยุติแล้ว หลังจากมีรายงานว่าแกนนำผู้ชุมนุมได้เข้าไปหารือกับตัวแทนของกระทรวงพลังงาน และเริ่มเปิดจราจรบริเวณถนนหน้ากระทรวงฯ ตามปกติแล้ว