นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมด้วยนายนิติธร ล้ำเหลือ และคณะในนามกลุ่มรวมประชาชน อ่านแถลงการณ์และยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์รัฐบาล เพื่อขอให้แก้ไขปรับปรุงโครงสร้างราคาน้ำมันพลังงาน และแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
โดยเห็นว่าการบริหารประเทศที่เมื่อเทียบดัชนีการทุจริต ปี 2564 ไทยอยู่ลำดับที่ 110 จาก 180 ประเทศ ซึ่งนับเป็นความตกต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี และมีหนี้สาธารณะ 10 ล้านล้านบาท เกิดภาวะเงินเฟ้อ ประเทศมีรายจ่ายมากกว่ารายรับ จัดทำงบขาดดุลต่อเนื่อง เกิดความเหลื่อมล้ำของช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจน เน้นการกู้มาแจกประชาชนโดยไม่ก่อรายได้ อีกทั้งประชาชนยังถูกซ้ำเติมด้วยราคาไฟฟ้า น้ำมัน และก๊าซหุงต้ม และมีแนวโน้มจะขึ้นสูงอีกเป็นระยะเวลานาน ซึ่งโครงสร้างราคาน้ำมันบิดเบือน ไม่เป็นไปตามต้นทุนราคาจริง การค้ากำไรเกินควร เพราะมีมติคณะรัฐมนตรีและการแก้ไขกฎหมายรองรับ
ทั้งนี้ ทางกลุ่มฯ เสนอแนวทางแก้ปัญหาราคาพลังงานให้รัฐบาลเร่งดำเนินการ 9 ข้อ ดังนี้ 1. ยกเลิกราคาน้ำมันทุกประเภทที่อ้างอิงราคาจากประเทศสิงคโปร์ 2. ยกเลิกราคาก๊าซหุงต้มที่อ้างอิงราคาจากประเทศซาอุดีอาระเบีย 3. กำหนดเพดานราคาค่าการกลั่น 4. กำหนดเพดานราคาค่าการตลาด ควบคุมให้อยู่ในระดับที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานเคยประกาศไว้ คือ กลุ่มน้ำมันเบนซินต้องไม่เกิน 1.85 บาทต่อลิตร กลุ่มน้ำมันดีเซลต้องไม่เกิน 1.40 บาทต่อลิตร
5. การกำหนดให้ราคาก๊าซ LPG ลอยตัวส่งผลให้มีราคาแพง ก่อให้เกิดกำไรเกินควรของผู้ประกอบการ เป็นภาระกับประชาชน จึงต้องยกเลิกกลับไปใช้ระบบเดิม 6. การจัดสรรก๊าซธรรมชาติ ต้องแก้ไขให้ประชาชนได้รับสิทธิอันดับแรกก่อนภาคอุตสาหกรรม 7. เก็บภาษีลาภลอยของโรงกลั่น 8. จัดหาพลังงานน้ำมันก๊าซจากมิตรประเทศ เช่น รัสเซีย อิหร่าน 9. ลดภาษีสรรพสามิตลงอีก
นายจตุพร กล่าวว่า เป็นที่น่าเสียดายกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ที่ไม่มีการอภิปรายนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มทุนพลังงานมีอำนาจเหนือรัฐ มีอำนาจเหนือฝ่ายค้าน มีอำนาจเหนือทางการเมืองทุกอย่าง ทั้งที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนจากราคาพลังงาน
"การอ้างเรื่องภาวะสงครามมาเป็นสาเหตุในการปล้นประชาชน แต่มีกลุ่มทุนบางกลุ่ม ได้ประโยชน์ทุกครั้ง และในกรณีที่เกิดขึ้นระหว่างยูเครนกับรัสเซีย มีความหายนะมากมาย แต่ขณะเดียวกัน ก็ได้สร้างความร่ำรวยให้เกิดขึ้นกับคนบางกลุ่มในประเทศไทย โดยเฉพาะด้านพลังงาน" นายจตุพร กล่าว
พร้อมระบุว่า ทางกลุ่มฯ จะนัดหมายกันครั้งแรกในวันที่ 26 มิ.ย.นี้ โดยขอให้ประชาชนทุกสาขาอาชีพที่เดือดร้อนทั้งกลุ่มวินมอร์เตอร์ไซค์, รถตู้, รถแท็กซี่ ที่ได้รับผลกระทบจากราคาพลังงาน มาช่วยกันระดมความคิดเห็นได้ที่ PEACE TV ส่วนวันที่ 3 ก.ค.นี้ จะขอนัดหมายที่ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกทม. โดยจะขออนุญาตนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเวทีประชาชน เพื่อชำแหละปัญหาราคาพลังงานและความเดือดร้อนของประชาชน ในเวลา 16.00 น.เป็นต้นไป
ด้านนายนิติธร ได้กล่าวท้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาดีเบท ซึ่งจะดูว่าระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นทหาร กับตนเป็นทนายความนั้น สิ่งที่นายกฯ คิด กับสิ่งตนคิด อะไรจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่ากัน