นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้รับแจ้งเรื่องการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจจากประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว โดยจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้ (28 มิ.ย.) เพื่อพิจารณาว่าจะพร้อมเข้าไปชี้แจงต่อสภาฯ เมื่อใด ส่วนกรอบเวลาว่าจะใช้กี่วันเป็นเรื่องที่วิปของแต่ละฝ่ายจะต้องไปตกลงกันอีกครั้ง โดยน่าจะเป็นช่วงวันที่ 18 ก.ค.65 เพราะก่อนหน้านั้นมีวันหยุดราชการ
ส่วนกรณีที่ ครม.อมัติหลักการร่าง พ.ร.ฏ.ค่าตอบแทนฯ ที่ขึ้นเงินเดือนคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะเป็นไปตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นไปตามเกณฑ์ตามปกติ ซึ่งหลายปีมาแล้วก็ควรจะต้องปรับ โดยกำลังไปพิจารณาในเรื่องของการเพิ่มค่าเสียโอกาส ซึ่งคนที่เป็นกรรมการ กสทช.จะไปประกอบอาชีพอื่นไม่ได้เป็นระยะเวลา 2 ปีหลังจากดำรงตำแหน่ง ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีการขอมา แต่กระทรวงการคลังเห็นว่าไม่เคยมีการอนุมัติในเรื่องนี้ให้กับตำแหน่งใดทั้งสิ้น เพราะยังมีอีกหลายตำแหน่งอื่นที่เสียโอกาสอีก เลยตัดตรงนี้ออกไป นอกนั้นก็เป็นไปตามที่เสนอหมด
"อย่างวุฒิสภาก็เหมือนกัน ในช่วง 2 ปีจะไปทำอะไรไม่ได้หรอก แต่ว่าทำธุรกิจการค้าอะไรได้นะ แต่ไปดำรงตำแหน่งอะไรอื่นยาก ส่วนที่เขายังไม่ได้แต่ก็ไม่จำเป็นอยู่ดี ก็ไม่ได้อนุมัติให้ไป" นายวิษณุ กล่าว
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำไมเงินเดือน กสทช.มากกว่านายกรัฐมนตรี นายวิษณุ กล่าวว่า ยังมีผู้บริหารตำแหน่งอื่นที่มีเงินเดือนมากกว่านายกรัฐมนตรีอีกจำนวนมาก เช่น รัฐวิสาหกิจ อย่างผู้บริหาร ปตท. เป็นต้น
นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมครม. ในวันพรุ่งนี้จะพิจารณากำหนดห้วงเวลาในการพิจารณาญัตติขออภิปรายไม่ไว้วางใจที่เหมาะสม จากนั้นทั้งวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านจะหารือกันว่าจะใช้ระยะเวลาอภิปรายกี่วัน และวันใด รวมถึงการจัดสรรเวลา ซึ่งเบื้องต้นต้องได้วันจาก ครม.ก่อน แต่จะใช้เวลา 4 วันหรือ 5 วัน เป็นรายละเอียดต้องหารือกันในวิปเช่นกัน โดยนายกรัฐมนตรียังไม่ได้สั่งการใดๆ ว่าจะอภิปรายกี่วัน
ส่วนกรณีที่นายวิโรจน์ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาล มองว่าหากอภิปราย 5 วันจะมากเกินไปนั้น นายอนุชา ระบุว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาใช้เวลา 4 วันแล้วลงมติในวันที่ 5 ถือว่ามากที่สุดแล้วและยังใช้เวลาไม่หมด