รายงานข่าวจากรัฐสภา เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมร่วมรัฐสภาซึ่งมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธาน ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ที่ประชุมได้ดำเนินการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยเป็นพิจารณาแบบเรียงไปตามมาตรา ซึ่งมีทั้งหมด 31 มาตรา และมีกรรมาธิการ (กมธ.) สงวนความเห็นขอแปรญัตติไว้ 11 ราย เป็น ส.ส.จำนวน 10 ราย และ ส.ว. 1 ราย
โดยมี กมธ.เสียงข้างน้อยที่สงวนความเห็นไว้ได้เริ่มอภิปรายตั้งแต่มาตรา 3 ประเด็นเรื่องให้มีการออกเสียงประชามติไปพร้อมกับการเลือกตั้ง เนื่องจากเห็นว่าจะช่วยประหยัดงบประมาณได้ ซึ่งจะใช้ครั้งละประมาณ 3 พันล้านบาท ขณะที่ กมธ.เสียงข้างมากเห็นว่าหากนำกฎหมายประชามติมาผูกโยงกับกฎหมายเลือกตั้งจะทำให้เกิดความยุ่งยาก ซึ่งที่ประชุมส่วนใหญ่มีมติเห็นชอบตามที่ กมธ.ไม่มีการแก้ไข
ต่อมาเป็นมาตรา 6 ประเด็นเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง ซึ่ง กมธ.เสียงข้างน้อย อยากให้ใช้หลักเกณฑ์เรื่องเขตพื้นที่ปกครองแทนจำนวนประชาชน ขณะที่ กมธ.เสียงข้างมากเห็นว่าจะเป็นปัญหาในทางปฏิบัติ ไม่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกับผู้สมัคร เช่น ที่จังหวัดเชียงใหม่มีจำนวนแตกต่างกันถึง 9 หมื่นคน ที่จังหวัดกาญจนบุรีมีจำนวนแตกต่างกันถึง 4 หมื่นคน หรือที่จังหวัดสมุทรปราการมีจำนวนแตกต่างกันถึง 2 หมื่นคน ซึ่งที่ประชุมส่วนใหญ่มีมติเห็นชอบตามที่ กมธ.มีการแก้ไข
มาตรา 6/1 ที่ประชุมส่วนใหญ่มีมติเห็นชอบตามที่ กมธ.มีการเพิ่มเติมขึ้นใหม่
มาตรา 6/2 ประเด็นเรื่องบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่ กมธ.เสียงข้างมากเห็นว่ามีการประชาสัมพันธ์ในช่องทางอื่นๆ อยู่แล้ว
มาตรา 6/3 ประเด็นเรื่องหมายเลขผู้สมัคร กมธ.เสียงข้างน้อยเสนอให้ใช้หมายเลขเดียวกันทั่วประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้ทุกภาคส่วนเกิดความสับสน
อย่างไรก็ตาม ระหว่างการพิจารณาได้มีสมาชิกรัฐสภาลุกขึ้นท้วงติงเรื่องเอกสารที่ไม่ครบถ้วน และยังไม่ควรพิจารณามาตรา 6/3 เนื่องจากมาตรา 6/2 ยังไม่มีการลงมติ ทำให้ประธานสั่งพักการประชุม เพื่อให้ กมธ.ไปจัดทำเอกสารให้เรียบร้อยแล้วกลับมาพิจารณาต่อ